อุตรดิตถ์ 29 ก.ค. – สุดสยองเมืองลับแล ทำแผนสามีคลั่งควงมีดตอฆ่าภรรยาลากศพไปฟันคอขาด อ้างเห็นเป็น “ผีกะ”
ตำรวจคุมตัว นายณริน อายุ 50 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อเหตุสุดสยองใช้มีดปังตอฆ่าตัดคอนางภัทรา อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของตัวเอง เมื่อคืนวานนี้ (28 ก.ค.) แล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่ในฉางข้าวของเพื่อนบ้าน ตำรวจใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการทำแผน โดยเริ่มจากจุดแรกภายในบ้าน ขณะที่นั่งดื่มสุรากับภรรยา ปรากฏว่า มองเห็นภรรยากลายเป็น “ผีกะ-ผีกระสือ” มาเข้าสิง ด้วยความกลัว จึงรีบไปคว้ามีดปังตอจ้วงแทงไปนับครั้งไม่ถ้วน และเห็นศีรษะของภรรยาเป็นผีผู้ชาย จึงใช้มีดเล่มเดิม เชือดลำคอไปเรื่อยๆ จนขาดจากลำตัว แล้วลากร่างภรรยาไปทิ้งไว้ข้างบ้าน พร้อมกับใช้มีดแทงตามลำตัวซ้ำอีกหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผีที่เข้าสิงออกไปแล้ว แต่ยังเห็นผีกะไม่ออกจากร่าง จึงเดินไปหิ้วศีรษะ ไปโยนทิ้งข้างบ้าน ใกล้ๆ กับเล้าไก่ ห่างจากตัวบ้านประมาณ 20 เมตร และทิ้งมีดไว้ตรงนั้น ที่บ้านพัก ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
นายณริน รับว่า หลังก่อเหตุ เห็นคนมาที่บ้านหลายคน จึงวิ่งเข้าไปหลบฉางข้าวของเพื่อนบ้าน รถจนทุกคนออกจากบ้านหมดแล้ว จึงกลับมาเปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนคราบเลือด จนถูกตำรวจจับกุม ทั้งนี้ ตลอดการทำแผนรับสารภาพ ผู้ต้องหายังคงพูดจาวกวน ซ้ำๆ ว่า “ผีกะ-ผีกระสือ สิงร่างเมีย”
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า สองสามีภรรยาดื่มสุรากันบ่อย และเสพยาเสพติดเป็นประจำ ช่วงก่อเหตุทั้งคู่นั่งดื่มสุรากัน แล้วทะเลาะกัน สามีทำร้ายร่างกายภรรยา เพื่อนบ้านได้ยินเสียงสุดท้ายของฝ่ายหญิงแค่ว่า…หายใจไม่ออก…แล้วเงียบไป…คาดว่าฝ่ายชายน่าจะบีบคอฝ่ายหญิงจนหมดลมหายใจ ก่อนใช้ปังตอฟันจนคอและศีรษะขาดออกจากกัน
ส่วนญาติพี่น้องทั้งของผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาที่มาดูผู้ต้องหาทำแผน ให้ข้อมูลว่า ปกติผู้ต้องหาเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูดจา แต่มาระยะหลังพบว่ามีอาการเพ้อ คล้ายคนเสพยาแล้วเกิดอาการหลอนยา ประกอบกับดื่มสุราหนักขึ้น จึงคาดว่าเป็นที่มาของการก่อเหตุฆ่าภรรยาตัวเอง.-สำนักข่าวไทย