อุปสรรคการแก้ปัญหา Fake news ในช่วงหาเสียงของสหรัฐ

15 พฤษภาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ในสหรัฐมีหน่วยงานที่เรียกว่าคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ที่ตรวจสอบเนื้อหาในโฆษณาเชิงพาณิชย์ให้มีความถูกต้อง เพื่อป้องกันการโฆษณาเกินจริง หรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จแก่ผู้บริโภค

แต่คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการด้านการสื่อสารของสหรัฐ (Federal Communications Commission หรือ FCC) ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการสถานีวิทยุ โทรทัศน์ เคเบิล จานดาวเทียมในสหรัฐ กลับไม่สามารถยับยั้งนักการเมืองจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างหาเสียงได้


เหตุผลก็เพราะการกระทำดังกล่าว อาจจะเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่ว่าด้วยเสรีภาพด้านการแสดงออกและเสรีภาพด้านการนับถือศาสนา โดยมองว่าเนื้อหาในโฆษณาช่วงหาเสียง คือการแสดงวิสัยทัศน์และความคิดเห็นของนักการเมืองเท่านั้น

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในสหรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCC ทั้ง ABC NBC CBS ต่างไม่มีสิทธิระงับโฆษณาของนักการเมืองเหล่านั้น แม้จะรู้ว่าเนื้อหาในโฆษณาเต็มไปด้วยข้อมูลเท็จก็ตาม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโฆษณาหาเสียงของ เจ.บี สโตนเนอร์ ผู้ลงชิงตำแหน่ง ส.ว. รัฐจอร์เจีย พรรคเดโมแครต เมื่อปี 1972 เพราะโฆษณาของเขาเต็มไปด้วยเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติทั้งต่อชาวแอฟริกันและชาวยิว แม้จะถูกประท้วงในวงกว้าง แต่ FCC กลับมองว่าการถอดโฆษณาจะเป็นการขัดขวางเสรีภาพด้านการแสดงออก (Free Speech) ตามนโยบาย Fairness Doctrine ที่ FCC สนับสนุนให้สถานีโทรทัศน์เปิดโอกาสให้บุคคลสาธารณะแสดงความเห็นประเด็นที่เป็นเรื่องโต้แย้ง เพื่อให้เกิดการนำเสนอมุมมองที่แตกต่างอย่างเท่าเทียม (ภายหลัง FCC ได้ยกเลิกนโยบาย Fairness Doctrine ในปี 1987)


หลายปีที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์เคเบิลหันมาออกนโยบายเพื่อพิจารณาการเผยแพร่โฆษณาของนักการเมืองด้วยตนเอง โดยก่อนหน้านี้ CNN เคยปฏิเสธการออกอากาศโฆษณาของ โดนัลด์ ทรัมป์ มาแล้วถึง 2 ชิ้น โดยอ้างว่าเนื้อหาโฆษณาเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นจริง

อย่างไรก็ดี โฆษณาทั้ง 2 ชิ้นที่ถูก CNN ปฏิเสธการเผยแพร่ กลับไปปรากฏทาง Facebook และสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างหาเสียงอย่างแพร่หลาย

Facebook ได้ระบุเอาไว้ในนโยบายการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่า โพสต์และโฆษณาจากนักการเมือง จะไม่ถูกประเมินเนื้อหาโดยผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

Facebook ให้เหตุผลว่า Facebook เคารพต่อกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย และความเชื่อที่ว่าคำพูดทางการเมืองถือเป็นคำพูดที่มีการกลั่นกรองมากที่สุด โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สื่อมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและข้อมูลสู่สาธารณะ ที่สำคัญ การจำกัดคำพูดทางการเมืองอาจทำให้ผู้คนทราบข้อมูลจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้งของตนน้อยลง และอาจทำให้นักการเมืองมีส่วนในการรับผิดชอบต่อคำพูดของตนน้อยลงอีกด้วย

นโยบายดังกล่าว ถูกท้าทายโดย อเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เทซ ส.ส.หญิง พรรคเดโมแครต ที่ตั้งคำถาม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook ระหว่างการไต่สวนโดยรัฐสภาสหรัฐเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 ว่า เธอสามารถผลิตโฆษณาที่อ้างว่านักการเมืองพรรครีพับลิกันให้การสนับสนุน Green New Deal โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เธอโปรโมทได้หรือไม่ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นจริงเลยก็ตาม

ส.ส. หญิงตั้งคำถาม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
ประเด็นอภิสิทธิ์ของนักการเมืองที่สามารถโกหก
ระหว่างหาเสียงทาง Facebook

ภายหลังตัวแทนของ Facebook ยืนยันต่อสำนักข่าว CNN ว่า ส.ส.หญิงสามารถผลิตโฆษณาหาเสียงด้วยข้อมูลเท็จได้ เนื่องจากนโยบายตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Facebook จะไม่ตรวจสอบเนื้อหาในโฆษณาเลือกตั้งของนักการเมือง

ต่อมา แอเดรียน แฮมป์ตัน ผู้ก่อตั้งกลุ่มการเมือง The Really Online Lefty League นำแรงบันดาลใจจาก ส.ส. หญิงพรรคเดโมแครต ผลิตโฆษณาหลอก ๆ ที่ระบุว่า ลินด์ซีย์ แกรม ส.ว. พรรครีพับลิกัน ให้การสนับสนุนโครงการ Green New Deal ซึ่งไม่เป็นความจริง

หลังจากโพสต์ได้เพียง 24 ชั่วโมง Facebook ก็ทำการลบโฆษณาตัวนี้ออก โดยให้ความเห็นว่าข้อมูลเท็จในโฆษณาผลิตโดยหน่วยงานทางการเมือง ไม่ได้มาจากตัวนักการเมืองโดยตรง

แอเดรียน แฮมป์ตัน ชายผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
เพื่อขอใช้สิทธิโกหกทาง Facebook
ในฐานะนักการเมือง

หลังจากนั้น แอเดรียน แฮมป์ตัน ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จุดประสงค์เพื่อจะได้ผลิตโฆษณาหาเสียงด้วยข้อมูลเท็จต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อท้าทายนโยบายของ Facebook ที่ละเว้นนักการเมืองจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเขาเชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ช่องว่างเหล่านี้ในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเช่นเดียวกัน

มีความพยายามผลักดันกฎหมายควบคุมโฆษณาของพรรคการเมืองทางสื่อสังคมออนไลน์ ในชื่อ Honest Ads Act หลังพบหลักฐานว่า ทางการรัสเซียเข้ามาซื้อโฆษณาทางการเมืองทาง Facebook ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2016

เนื้อหาของ Honest Ads Act กำหนดว่า สื่อสังคมออนไลน์ที่มียอดเข้าชมต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านครั้ง จะต้องเก็บรักษาข้อมูลสาธารณะที่เกี่ยวกับสื่อโฆษณาการเลือกตั้ง ที่จัดซื้อโดยกลุ่มหรือบุคคลที่ใช้เงินมากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเผยแพร่โฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ๆ

ประโยชน์ของกฎหมาย Honest Ads Act

แม้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ปัจจุบัน Honest Ads Act ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐแต่อย่างใด

องค์กรสื่อโฆษณาทางธุรกิจสหรัฐหรือ Interactive Advertising Bureau แสดงความเห็นคัดค้านกฎหมาย Honest Ads Act โดยมองว่าเป็นแนวทางที่เข้มงวดเกินไป ควรเปิดโอกาสให้สื่อแต่ละสำนักดำเนินการควบคุมเนื้อหาโฆษณากันเอง

ด้าน Facebook ประกาศให้การสนับสนุน Honest Ads Act แต่มีการสอบสวนที่พบว่า Facebook พยายามล็อบบี้เพื่อไม่ให้ Honest Ads Act มีผลบังคับใช้

นอกจากสร้างความสับสนให้กับผู้ลงคะแนนแล้ว ข้อมูลเท็จจากการหาเสียงของนักการเมืองยังส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งอีกด้วย

เบน มอร์ริส โฆษกสำนักงานเลขาธิการรัฐโอเรกอน เปิดเผยว่าเมื่อปี 2022 มีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับการเลือกตั้งถึง 3 ครั้ง ทั้งการเซนเซอร์ชื่อผู้สมัครบนป้ายหาเสียง อ้างว่ามีการกีดกันสมาชิกของพรรค ๆ หนึ่งไม่ให้เข้าไปยังสำนักงานเลือกตั้งท้องถิ่น และอ้างว่าเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งขอใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของผู้ใช้สิทธิอีกด้วย

ข่าวลือทั้ง 3 เรื่องถูกโพสต์ผ่านทาง Facebook แม้จะมีการยืนยันความถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว แต่ทาง Facebook ก็เลือกที่จะไม่ลบข้อความดังกล่าว

เบน มอร์ริส วิจารณ์นโยบายการตรวจสอบโฆษณาจากนักการเมืองของ Facebook ว่า เน้นแต่การป้องกันปัญหาในระดับประเทศ ให้ความสำคัญแต่คำกล่าวอ้างที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นเท็จซึ่งเข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น เป็นกระแสนิยม และก่อให้เกิดผลกระทบ ซึ่งข่าวลือทั้ง 3 เรื่องอาจจะไม่สร้างผลกระทบในระดับ “กระแสนิยม” ในความหมายของ Facebook แต่ก็ก่อความเสียหายต่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นอย่างมาก

บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องรับมือข่าวปลอมจากนักการเมืองด้วยตนเอง

อัยการของมาริโคปา เทศมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของรัฐแอริโซนา ต้องเขียนข้อความเตือนไปยังผู้สมัครที่จงใจปล่อยข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแอบเปลี่ยนผลโหวตอย่างลับ ๆ และชักชวนให้ผู้ไปใช้สิทธิขโมยปากกาจากคูหาเลือกตั้งเพื่อเป็นการป้องกัน

รวมถึงข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่เลือกตั้งมาริโคปาทำการลบข้อมูลเลือกตั้งจากระบบคอมพิวเตอร์ในปี 2021 และมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่เลือกตั้ง 2 รายว่ามีส่วนในการลบข้อมูล ทำให้ทั้งสองตกเป็นเป้าการข่มขู่ทางสื่อสังคมออนไลน์

แม้ปลัดเทศมณฑลมาริโคปาจะแจ้งไปยัง Twitter เพื่อขอให้ลบข้อความดังกล่าว แต่ Twitter กลับเห็นว่าข้อความเหล่านั้นไม่ละเมิดนโยบายด้านเนื้อหาของ Twitter แต่อย่างใด

เมื่อปีที่แล้ว มีการเสนอร่างกฎหมายไปยังรัฐสภาสหรัฐ เพื่ออนุมัติงบประมาณมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นระยะเวลา 10 ปี สำหรับใช้สนับสนุนการเลือกตั้งในระดับรัฐและระดับท้องถิ่น รวมถึงการต่อสู้กับข่าวปลอมข้อมูลเท็จของนักการเมืองที่เผยแพร่ในระหว่างการเลือกตั้งโดยเฉพาะ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.npr.org/2022/03/17/1087047638/the-truth-in-political-advertising-youre-allowed-to-lie
https://www.brookings.edu/blog/fixgov/2019/12/20/regulating-fact-from-fiction-disinformation-in-political-advertising/
https://www.pbs.org/newshour/politics/debunking-false-claims-a-difficult-battle-for-election-offices-nationwide

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี