กทม. 6 พ.ค. – กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ความคืบหน้าเหตุการณ์ ชายชาวเมียนมา 2 คน ถูกกลุ่มไทใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า แก๊งไทใหญ่ 999 บุกใช้มีดไล่ฟันกลางซอยประชาสงเคราะห์ 45 ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดในร้าน จะเห็นว่า แม้ผู้บาดเจ็บจะวิ่งหนีเข้าไปในร้าน และยกมือไหว้ขอชีวิต แต่คนร้ายยังตามเข้าไปกระหน่ำฟันไม่ยั้งจนเลือดอาบ
ล่าสุดวันนี้ นายตอง ผู้เสียหายชาวเมียนมา พร้อมนางสาวบี พี่สาว เดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อให้ปากคำ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุขณะตนกับเพื่อน กำลังเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อย่านห้วยขวาง ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาจอดรถขวางหน้า ไม่พูดจาอะไร ใช้อาวุธมีดพยายามไล่ฟันตนกับเพื่อนในทันที ทำให้ตนกับเพื่อนต้องวิ่งแยกย้ายหนีกันไป โดยตนวิ่งมาทางตลาดสดห้วยขวาง ส่วนเพื่อนของตนวิ่งหนีไปยัง ซอยประชาสงเคราะห์ 45 ผู้ก่อเหตุวิ่งตามมา โดยตนถูกฟันเข้าที่ไหล่จนเย็บ 18 เข็ม

นายตอง ยืนยันไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักแก๊งต่างๆ ที่เป็นคู่อริกัน แต่อาจเป็นเพราะวันนั้นตนสวมเสื้อที่มีลายธงชาติของกะเหรี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับการที่ ผู้ก่อเหตุไลฟ์สดใน tiktok ว่า “จะกวาดล้างชาวกะเหรี่ยงให้หมด เพราะรู้สึกโกรธแค้นที่ตนเคยถูกชาวกะเหรี่ยงทำร้ายมาก่อน”
ด้านนางสาวบี พี่สาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะตอนนี้ยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ และรู้สึกแย่ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ กระทำการในลักษณะนี้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าของประเทศ และทำให้ภาพลักษณ์ของชาวเมียนมาดูแย่ลงไปอีกด้วย ทั้งที่ตนและน้องชายก็เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงอยากให้ตำรวจรีบจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุไปทำแบบนี้กับใครอีก
ด้านพันตำรวจเอกประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้คาบเกี่ยวพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และ สน.สุทธิสาร แต่เนื่องจาก ผู้เสียหายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ก่อน จึงให้พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดีทั้งหมด ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ส่งมอบคำให้การของผู้เสียหายรายแรก คือนายตองที่ถูกฟันในฝั่ง สน.ห้วยขวาง ให้กับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ทั้งสองสถานีตำรวจก็จะประสานความร่วมมือแก่กันและกันในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ส่วนประเด็นที่อ้างว่าชาวเมียนมาตั้งกลุ่มแก๊งต่าง ๆ แล้วรวมตัวตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ห้วยขวางนั้น เนื่องจากพื้นที่ห้วยขวางมีลานสาธารณะที่สำคัญจำนวนหลายแห่ง ทั้งสนามกีฬาห้วยขวาง ตลาดห้วยขวาง และหอนาฬิกาห้วยขวาง ซึ่งประชาชนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างด้าวมักจะมารวมตัวนัดพบกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงเย็น
พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจจะมีทะเลาะกระทบกระทั่งกัน โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างด้าวด้วยกัน ซึ่งตอบไม่ได้ว่าเป็นลักษณะการทะเลาะวิวาทแบบกลุ่มแก๊งกันหรือไม่ ส่วนประเด็นกลุ่มแก๊งไทยใหญ่ 999 และแก๊ง RCD นั้น ตำรวจก็เพิ่งทราบตามที่ปรากฏในสื่อต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบ หากพบเป็นการลักษณะรวมแก๊งในเชิงอั้งยี่ซ่องโจร ก่อเหตุอาชญากรรม หรือเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่ละเว้น
หลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการกวดขัน พร้อมประสานสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมคนในสัญชาติของตนเอง รวมทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อช่วยกันตรวจสอบชาวต่างด้าวที่มีลักษณะรวมกลุ่มผิดกฎหมายเช่นนี้ หากพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ใช้โซเชียลในเชิงข่มขู่หรือผิดกฎหมาย จะประสานให้ทางตำรวจไซเบอร์ดำเนินคดี
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ลงพื้นที่บริเวณซอยประชาสงเคราะห์ 45 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ผู้เสียหายได้วิ่งหลบหนีมาขอความช่วยเหลือ ได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บอกว่า ในวันเกิดเหตุตัวเองปิดร้านตอน 22.00 น. เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เขาไล่ทะเลาะกันมาจากตลาดห้วยขวาง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีคนหนีมาขอความช่วยเหลือบริเวณนี้ ปกติแถวนี้ไม่ค่อยเกิดเหตุทะเลาะกัน ส่วนใหญ่เหตุจะเกิดย่านตลาดห้วยขวาง หอนาฬิกา สนามกีฬา บางคนไม่อยากให้ข้อมูลเพราะกลัว ขนาดคนชาติเดียวกันยังตามไล่ล่า ถ้าหากว่ารู้ให้ข้อมูลก็กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะเราอยู่ในพื้นที่ ส่วนแรงงานที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายไม่พบว่าจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ข้อมูลจากชาวบ้านที่อยู่ในละแวกหอนาฬิกาสวนสมเด็จย่า 90 หรือหอนาฬิกาห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่า กลุ่มแก๊งเหล่านี้มักจะชอบมารวมตัวกันที่สวนหอนาฬิกาในช่วงเย็นเป็นประจำทุกวัน ส่วนใหญ่จะมาตั้งวง เพื่อสูบกัญชาและดื่มน้ำกระท่อม รวมถึงนำอาวุธมาเก็บสะสมซ่อนเอาไว้ตามพุ่มหญ้าของสวน แต่หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวก็ไม่พบเห็นกลุ่มแก๊งมารวมตัวแต่อย่างใด รวมถึงจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยตรวจตรากวดขันไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน
ด้านเจ้าหน้าที่ที่เคยทำงานด้านชุมชนสัมพันธ์ในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ไม่พบว่ามีการรวมตัวตั้งเป็นกลุ่มแก๊งขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการรวมกลุ่มของไทใหญ่ แต่พบว่าจะมีการรวมกลุ่มกันของวัยรุ่นทั้งคนไทยและต่างชาติที่อาจมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้าง เช่นล่าสุด ตำรวจในพื้นที่สน.ดินแดง จับกุมหัวโจกแก๊งต่างด้าวกร่างใช้อาวุธไล่ฟันทำร้ายเพื่อนร่วมชาติเจ็บสาหัสโดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นคนไทยที่ยังเป็นเยาวชนอยู่ .-สำนักข่าวไทย