ซิดนีย์ 28 เม.ย.- ออสเตรเลียปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้งานมานานที่สุดของประเทศในวันนี้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน
โรงไฟฟ้าลิดเดลล์ (Liddell) ซึ่งอยู่ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางเหนือด้วยระยะเวลาขับรถ 3 ชั่วโมง สร้างขึ้นในปี 2514 ผลิตไฟฟ้าร้อยละ 10 ของที่ใช้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ บริษัทเอจีแอล (AGL) เจ้าของโรงไฟฟ้าเผยว่า จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในการรื้อถอนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งนี้ เพื่อใช้เป็นสถานที่ดำเนินโครงการพลังงานสะอาดใหม่ ๆ เช่น โรงไฟฟ้าไฮโดรเจน วัสดุของโรงไฟฟ้าลิดเดลล์มากกว่าร้อยละ 90 จะถูกนำมาใช้หมุนเวียน ในจำนวนนี้เป็นเหล็กน้ำหนัก 70,000 ตัน มากกว่าปริมาณเหล็กที่ใช้ก่อสร้างสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกถ่านหินรายใหญ่ที่สุดในโลก รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมาพยายามต้านทานแรงกดดันให้ลดขนาดอุตสาหกรรมถ่านหิน อย่างไรก็ดี รัฐบาลพรรคแรงงานสายกลางซ้ายที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2565 ได้รับปากว่า ภายในปี 2573 ไฟฟ้าร้อยละ 82 ของประเทศจะผลิตจากแหล่งพลังงานสะอาด เทียบกับปัจจุบันที่มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น ขณะที่บริษัทออสเตรเลียจำนวนมากสนับสนุนให้ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินตามที่ถูกกระแสกดดันจากประชาชนให้แก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ โรงไฟฟ้าเอแรริง (Eraring) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์มีกำหนดปิดในปี 2568 ตามด้วยโรงไฟฟ้าถ่านหินอีกจำนวนหนึ่งที่จะทยอยปิดในช่วงทศวรรษหน้า.-สำนักข่าวไทย