กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – “ศิธา” ชี้ประชาคมโลกมีหน้าที่ต้องดูแลผู้อพยพราว 1% ของโลก ประเทศต้นทาง ประเทศที่ 2 และ 3 ต้องสนับสนุน ทั้งงบประมาณและที่อยู่อาศัย ติงผู้นำไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ
น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย แสดงวิสัยทัศน์หัวข้อไทยในประชาคมระหว่างประเทศสิทธิมนุษยชน ความมั่นคงและการจัดการแรงงานข้ามชาติ และผู้ลี้ภัย ว่าพี่น้องซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยและต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ หรือค่ายลี้ภัยต่างๆ ต้องประสบกับความยากลำบาก มีประชากรประมาณ 1% ของโลกที่ยังไร้ที่อยู่และต้องอพยพถิ่นฐาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาคมโลกที่อยู่สุขสบายแล้วจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และเข้ามาจัดสรรว่าคนประมาณ 100 ล้านคน จะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง โดยเฉพาะการพูดคุยกับประเทศต้นทางและประเทศที่ 2 และ 3 ทั้งการดูแลเรื่องงบประมาณและที่อยู่อาศัย
ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาจำนวน 2 ฉบับ ซึ่งจะต้องตอบสนองใน 2 เรื่อง คือ การซ้อมทรมาน และ พ.ร.บ.อุ้มหาย แต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้กลับยังไม่ผ่านสภาฯ โดยอ้างเรื่องความไม่พร้อมของกล้อง CCTV
ในส่วนของท่าทีผู้นำประเทศละเลยที่จะใช้มาตรการที่เข้มข้นในการตอบสนองต่อประเทศเพื่อนบ้าน ที่ใช้เครื่องบินรบในการทิ้งระเบิดและโจมตีชนกลุ่มน้อย หรือกระทั่งกรณีที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจส่งผู้อพยพอุยกูร์กลับประเทศ ซึ่งสร้างความไม่พอใจจนนำมาสู่เหตุระเบิดกลางใจเมืองกรุงเทพมหานคร สร้างความเคียดแค้นให้กับกลุ่มคนเหล่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเลย.-สำนักข่าวไทย