ดีเบตทรัมป์-แฮร์ริส แสดงวิสัยทัศน์คนละด้าน

Harris and Trump in fiery debateเครดิตภาพ : ABC NEWS PRESIDENTIAL DEBATE

ฟิลาเดลเฟีย 11 ก.ย.- คู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่งเสร็จสิ้นการโต้วาทีประชันวิสัยทัศน์หรือดีเบต ทั้งสองต่างแสดงมุมมองสองด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งโจมตีว่าคู่แข่งทำให้สหรัฐกำลังตกต่ำ ส่วนนางคอมมาลา แฮร์ริส ต้องการก้าวข้ามทรัมป์แล้วมุ่งสู่อนาคต 


การดีเบตของผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นวาระสำคัญทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งที่จัดกันมาหลายสิบปี   ครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่นายทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่หวังครองตำแหน่งอีกสมัย ประชันกับนาง แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่เป็นสตรี มีเชื้อสายแอฟริกันและเอเชียใต้ ซึ่งได้กลายมาเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตแทนนาย โจ ไบเดน ที่เคยขึ้นเวทีดีเบตกับนายทรัมป์มาแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายน แต่แสดงผลงานย่ำแย่จนต้องถอนตัวไป

Harris and Trump in fiery debate
เครดิตภาพ : ABC NEWS PRESIDENTIAL DEBATE

กฎเกณฑ์ของการดีเบตครั้งนี้ยังเหมือนกับครั้งที่แล้วคือ กำหนดให้เปิดไมโครโฟนเมื่อถึงเวลาของแต่ละคนเพื่อป้องกันการพูดแทรกขัดจังหวะ ห้องที่จัดดีเบตนั้นให้มีเพียงคู่ต่อสู้กับพิธีกรข่าว 2 คนของสำนักข่าวเอบีซีผู้จัดดีเบตเท่านั้น โดยไม่มีผู้ชมเลย  


ในการประชันกันบนเวที พิธีกรผู้ดำเนินรายการได้ตั้งคำถามสลับให้กับแต่ละคนตอบ และจัดเวลาให้ได้ตอบโต้กันด้วย โดยไล่เรียงไปทีประเด็นที่เป็นตัวแปรในการเลือกตั้ง เช่น เศรษฐกิจ ปัญหาผู้อพยพ สิทธิการทำแท้ง การเมืองระหว่างประเทศ สงครามยูเครนและตะวันออกกลาง นาย ทรัมป์ ได้โจมตีผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเรื่องเงินเฟ้อรุนแรง เศรษฐกิจฝืดเคือง การเสียตำแหน่งงาน รวมถึงความผิดพลาดในการควบคุมผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจนสร้างปัญหาและแย่งงานในประเทศ

ส่วนนางแฮร์ริส ได้เน้นย้ำหลายครั้งว่า เธอไม่ต้องการการเมืองที่สร้างความเกลียดชัง ชี้นิ้ว แบ่งขั้วแบ่งข้าง เพราะเธอมีแผนงานเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ให้โอกาสแก่ทุกคน มุ่งให้คนทั่วไปลืมตาอ้าปากด้วยการแบ่งเบาภาระและส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม เธอยังได้พูดหลายครั้งว่า อเมริกาควรก้าวข้ามทรัมป์ไปได้แล้ว เพราะเป็นการเมืองที่สร้างความวุ่นวาย เป็นบุคคลที่มีคดีติดตัวมากมายและคำนึงถึงประโยชน์ของตัวเอง

Taylor Swift says she will vote for Kamala Harris

คำถามที่ว่าใครชนะการดีเบตครั้งนี้ ยังเป็นที่ถกเถียงกัน ผลการสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) พบว่า ผู้ชมให้นางแฮร์ริสชนะร้อยละ 63 ส่วนนายทรัมป์อยู่ที่ร้อยละ 37 นางแฮร์ริสได้แรงหนุนสำคัญจากนักร้องคนดังอย่างเทย์เลอร์ สวิฟท์ ที่ประกาศหลังดีเบตไม่นานว่า รับรองให้นางแฮร์ริสเป็นผู้นำคนใหม่ โดยระบุว่า นางแฮร์ริสมีนโยบายและแผนการที่ดีสำหรับประเทศชาติ เธอต้องการแสดงตัวเพื่อความชัดเจน เพราะที่ผ่านมาเธอตกเป็นเป้าของเอไอและข่าวปลอม จึงต้องบอกให้สาธารณชนทราบว่าเธอจะเลือกใคร.-812(814).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก