กรุงเทพฯ 19 เม.ย.- อากาศแปรปรวน ร้อนจัด ภัยแล้ง ส่งผลสัตว์อ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย อัตราเสียหายเพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนสูงกว่าราคาขาย อาจไปไม่รอด วอนเข้าใจผู้เลี้ยงแบกรับภาระมาตลอด หวังให้กลไกตลาดทำงาน นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า ปัจจุบันต้นทุนการเลี้ยงของเกษตรกรรายย่อยในภาคเหนือสูงถึง 82-85 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ยทั่วประเทศของผู้เลี้ยงรายย่อยอยู่ที่ 78-80 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ประกาศราคาสุกรหน้าฟาร์มโดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติล่าสุดอยู่ที่ 70-75 บาทต่อกิโลกรัม ตามอุปสงค์-อุปทาน แต่เกษตรกรขายได้จริงเพียง 65 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ผู้เลี้ยงสุกรจึงยังคงอยู่ในภาวะขาดทุนสูง หากผลผลิตถูกกดราคาเช่นนี้ เกษตรกรเลี้ยงสุกรต่อไปไม่รอดแน่นอน นอกจากนี้ ยังประสบปัญหาจากสภาพอากาศแปรปรวนช่วงเช้าถึงเย็นร้อนจัด อุณหภูมิสูงถึงกว่า 38 – 40 องศาเซลเซียส ต่างกับช่วงค่ำถึงรุ่งเช้าที่อุณหภูมิลดลงไปที่อยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียส ทำให้สุกรปรับสภาพไม่ทัน และในบางพื้นยังมีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง และมีลูกเห็บตกซ้ำเติม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสุกรเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดอัตราเสียหายสูงขึ้นอีก “ปกติอากาศร้อนก็ทำให้สุกรโตช้าจากความเครียดทำให้กินอาหารน้อยลงอยู่แล้ว เมื่อต้องมาประสบกับสภาพอากาศแปรปรวน ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสุกร โดยเฉพาะในลูกสุกรแรกคลอด และแม่สุกรช่วงปลายของการอุ้มท้อง โดยลูกสุกรจะมีสภาพอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย […]