รัฐสภา 1 มี.ค.-โฆษกปธ.สภาฯ ยัน “ชวน” ทำหน้าที่ตามที่ม.173 กำหนด หลังสั่งยุติการพิจารณาพ.ร.ก.ขยายเวลาพ.ร.บ.อุ้มหายฯ แจง”ระยะเวลา 3 วัน” คือระยะเวลาส่งศาลรธน. ไม่ใช่ระยะเวลาตรวจสอบรายชื่อ
น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์เฟชบุ๊กระบุขอไว้อาลัยต่อการทำหน้าที่ที่ไม่เที่ยงธรรมของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จากการประชุมพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ที่ใช้อำนาจประธานสภาฯ ตรวจสอบรายชื่ออย่างเร่งด่วน และรีบส่งออกให้ศาลรัฐธรรมนูญว่า การทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้(28 ก.พ.) ได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้องตามมาตรา 173 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่า “ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาจะอนุมัติพระราชกำหนดใด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกมีสิทธิเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาฯ ได้”
“กรณีที่เกิดขึ้นมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยื่นคำร้องต่อประธานสภา ฯ ในขณะที่กำลังพิจารณาพระราชกำหนดดังกล่าว จึงทำให้ประธานสภาฯ ต้องให้หยุดการพิจารณาพระราชกำหนดไว้ก่อน เพื่อจะได้ส่งความเห็นดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็น เพราะหากยังพิจารณาต่อไปจนถึงการลงมติอนุมัติพระราชกำหนดเสร็จสิ้น จะถือว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ดำเนินการตามมาตรา 173 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญ” น.ส.ผ่องศรี กล่าว
น.ส.ผ่องศรี กล่าวว่า ส่วนประเด็นระยะเวลา 3 วันนั้น เป็นเงื่อนเวลาประธานสภาฯ ต้องส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ไม่ใช่ระยะเวลาตรวจสอบความถูกต้องของลายมือชื่อภายใน 3 วัน ประกอบกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบลายมือชื่อเป็นภารกิจหลักและมีความชำนาญ จึงใช้เวลาตรวจสอบลายมือชื่อได้รวดเร็วถูกต้อง เมื่อนายสมชัยพาดพิงถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรให้เกิดความเสียหาย จึงจำเป็นต้องชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ทราบ ทั้งนี้ มีรายงานว่านายชวนได้ลงนามในหนังสือเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวันนี้แล้ว.-สำนักข่าวไทย