รัฐสภา วันนี้ (17 ก.พ.) “เต้ มงคลกิตติ์” ยื่นลาออกอย่างเป็นทางการ เผยรู้สึกโล่ง เพราะไม่อยากใช้เวลาราชการลงพื้นที่ พร้อมวอนพรรครัฐบาล อย่าอาศัยเวลาและทรัพยากรหลวงสร้างความได้เปรียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยื่นหนังสือลาออกต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านช่องทางสารบัญ ตามที่ได้ประกาศกลางสภาก่อนหน้านี้
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าได้ระบุในหนังสือ ว่ามีความประสงค์จะลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 9:09 น. และตอนนี้รู้สึกโล่ง ช่วง 11 เดือนได้รับมอบอำนาจอธิปไตยจากประชาชนมาทำหน้าที่ซึ่งมีความปลื้มปิติและปลื้มใจที่ได้รับหน้าที่ที่ประชาชนมอบให้ ซึ่งได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ โดยเป็นตัวแทนประชาชนทั่วประเทศได้เสนอกฎหมายไปกว่า 4 ฉบับ เช่นร่างกฎหมายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และยังได้ทำหน้าที่ในการอภิปรายใหญ่ๆถึง 6 ครั้ง รวมทั้งยังนำเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนถึง 40 ครั้ง ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
และขณะนี้ใกล้ยุบสภาแล้ว จึงจำเป็นต้องลงพื้นที่ จึงไม่อยากเบียดบังเวลาราชการไปหาเสียง ขณะเดียวกันขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองใหญ่ๆที่มีรัฐมนตรีไม่ควรใช้สวัสดิการอื่นๆในการหาเสียง เพราะถือเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นที่ไม่มี ส.ส.และไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร เพื่อให้การเลือกตั้งปี 2566 เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แล้วตอนนี้ต้องขอกราบขอบคุณประชาชน 66 ล้านคนทั่วประเทศ ที่ให้โอกาสในการทำงานด้วย และหวังว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับการดูแลจากผู้บริหารชุดใหม่ที่ดี
สำหรับพรรคไทยศิวิไลย์ จะจับมือกับใครนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าถ้าเลือกได้ขออยู่ฝ่ายบริหาร เพราะต้องการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนจริงๆ เพราะนโยบายที่นำเสนอ จะสามารถผลักดันได้ แต่ถ้าพรรคอื่นต้องการเป็นรัฐบาลหมด ตนก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ที่ผ่านมาก็มีประสบการณ์ทั้งสองฝั่ง ส่วนจะร่วมกับใครพรรคพลังประชารัฐหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องดูว่าจะได้ ส.ส.มากันกี่คน ตอนนี้ยังไม่สามารถไปเจรจาอะไรกับใครได้ เพราะพรรคเองก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ว่าจะมีคะแนนมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นตราบใดที่ประชาชนยังไม่ได้มอบอำนาจอธิปไตยให้ เราก็ยังไม่สามารถไปเจรจาอะไรกับใครได้ เพราะเราไม่ได้ซื้อเสียง จึงไม่มั่นใจ แต่ยืนยันทำงานเต็มที่ และหากประชาชนรักเราก็ขอให้ช่วยสนับสนุนและช่วยดูตอนนับคะแนนด้วย.- สำนักข่าวไทย