รัฐสภา 16 ก.พ. – “ศักดิ์สยาม” เปิดคลิปแถลงผลงานคมนาคม กลางสภา แจงยิบ 5 เรื่อง ด้าน “จุลพันธ์” ลุกท้วงติง จะขายผลงานก็ไม่ว่า แต่ไม่มีใครถาม เกรงรัฐมนตรีที่เหลือจะไม่มีเวลาชี้แจงต่อ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงต่อการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายสำคัญ ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ส่วนตัวเวลาจะสั่งการอะไรก็จะดูเฉพาะเรื่องที่เป็นอำนาจของรัฐมนตรี
ส่วนการต่อสัญญาทางด่วนพิเศษบางปะอิน-ปากเกร็ด ที่ฝ่ายค้านอภิปรายว่ามีมูลค่าหนี้ 3 แสนล้านบาทนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ข้อเท็จจริงมีมูลค่าเพียง 1.37 แสนล้านบาท ซึ่งการทางพิเศษฯ ได้เจรจาเหลือเพียง 7.8 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาเพิ่มเงื่อนไขให้ประชาชนขึ้นทางด่วนฟรี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตลอดระยะเวลาสัมปทาน ช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่าย
สำหรับเรื่องการรับสภาพหนี้ ที่ทำให้การทางพิเศษฯ มีหนี้เพิ่มจนฐานะทางการเงินติดลบ นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า เป็นตัวเลขขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น โดยสถานะการเงินในภาพรวมยังมีกำไรทุกปี และเป็นหน่วยงานลำดับต้นๆ ที่สามารถนำเงินส่งรัฐได้ปีละ 3,00-4,000 ล้านบาท พร้อมย้ำว่าได้ดำเนินการโดยยึดหลักผลประโยชน์ของประชาชน
ส่วนเรื่องการไม่บันทึกบัญชีที่ดินเขากระโดงในงบการเงินให้ครบถ้วนนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องนำส่งคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามมาตรฐานการเดินบัญชี ยืนยันว่าไม่มีปัญหาการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ จึงได้มีการบันทึกสินทรัพย์เป็นของการรถไฟฯ และ สตง.ไม่ได้ท้วงติง ส่วนที่ดินอีก 5,000 ไร่ ที่ยังไม่ได้มีการบันทึกทะเบียนสินทรัพย์ เพราะยังมีเรื่องการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ โดยการรถไฟฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง จึงยังไม่สามารถลงบันทึกในทะเบียนสินทรัพย์ได้ ต้องรอคำสั่งศาลว่ากรรมสิทธิ์จะตกเป็นของฝ่ายไหน
ด้านการเตรียมการรองรับผู้โดยสารนักท่องเที่ยว ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งมาตรการ และการจราจรทางอากาศ รวมถึงภาคพื้น เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยตนและผู้บริหารกระทรวงฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสั่งการเรื่องการแก้ปัญหาต่างๆ โดยเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว รวมถึงเปิดจุดเช็กอินอัตโนมัติ เพื่อรองรับการเดินทางได้อย่างมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ ขณะที่ท่าอากาศยานอีก 5 แห่ง ตามหัวเมือง ก็สามารถรองรับการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน จากการดำเนินการเรื่องการขนถ่ายสัมภาระล่าช้า เป็นเพราะช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องลดบุคลากร ขณะนี้ได้มีการเรียกรับบุคลากรและอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับเที่ยวบินแล้วตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินค่าก่อสร้าง 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะอยู่ในกรอบการดำเนินงานของกรมโยธาธิการฯ สาเหตุที่ล่าช้า เนื่องจากมีการออกแบบไว้นานแล้ว เมื่อไปก่อสร้างจึงมีการเปลี่ยนสภาพภูมิศาสตร์ ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความล่าช้า แต่ปลายปี 2566 มีการเปิดทดลองวิ่งทางหลวงพิเศษเลี่ยงเมืองนครราชสีมา และปี 2568 จะเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า เป็นไปตามกฎหมายร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน รัฐมนตรีไม่สามารถยุ่งเกี่ยวขั้นตอนการประมูลได้ ตนได้แต่รอว่า เมื่อไหร่ รฟม. เสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคม โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จึงจะสามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้
ส่วนสัญญาระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่องด้วยตัวเอง นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทางกระทรวงคมนาคมเห็นว่ามีประโยชน์ จึงได้มีการขยายโครงการไปยังท่าอากาศยานระหว่างประเทศ 5 แห่ง ซึ่งประเด็นที่ฝ่ายแนะนำมา ต้องขอบคุณ และจะขอไปปรับใช้กับ AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้มีการเจรจากับเอกชนว่าให้รับค่าตอบแทนเท่ากับคนที่เดินทางจริง แต่ก็ต้องมีการเยียวยาผู้ประกอบการระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่องด้วยตัวเอง ตามมติ ครม. ที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิด
อย่างไรก็ตาม หลังการชี้แจง นายศักดิ์สยาม ได้ขอเปิดคลิปวิดีโอแถลงผลงานของกระทรวงคมนาคม ความยาว 9 นาที ที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง และปี 2566 จะทำอะไรบ้าง ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ท้วงติงว่า ท่านประธานก็ฟังเพลินไปเลย จะโฆษณาหาเสียงไม่เป็นไร จริงๆ แล้วไม่ได้มีคนถามเรื่องผลงาน แต่ไม่เป็นไร พร้อมย้ำว่า เวลาของคณะรัฐมนตรีเหลือไม่ถึง 1 ชั่วโมงแล้ว ก็เป็นห่วง เพราะยังมีรัฐมนตรีอีก 2-3 คน ที่จะขอใช้สิทธิชี้แจง จากนี้ยังมี ส.ส.ฝ่ายค้านที่เตรียมอภิปรายอีก 12 คน เกรงว่าหากใช้เวลาล่วงเลยไป จะไม่มีโอกาสได้มาตอบประเด็นท้ายๆ. – สำนักข่าวไทย