คมนาคม หารือ กมธ.คมนาคม วุฒิสภา เร่งพัฒนาระบบขนส่ง

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – “สุริยะ” ถกคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา เร่งพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งครอบคลุมทั้งทางถนน ราง น้ำ อากาศ – ส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธาน กมธ.คมนาคม วุฒิสภา และคณะ ได้เดินทางมาร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและพิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบคมนาคมในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีอุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการขนส่งสินค้า และการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 ที่กำลังจะมาถึง

โดยในส่วนของการคมนาคมทางบก ทาง กมธ.คมนาคม วุฒิสภา ได้สอบถามถึงแนวทางการนำระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (Intelligent Transportation System : ITS) มาใช้ในการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองใหญ่ในภูมิภาค ความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 (สายบางปะอิน – นครราชสีมา) ระยะทาง 196 กม. ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้างานโยธา 96% คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตลอดเส้นทางได้ภายในปี 2569, มอเตอร์เวย์หมายเลข 82 (สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว) ระยะทาง 25 กม. ซึ่งจะเปิดให้ทดลองใช้บริการฟรีตลอดเส้นทางได้ภายในปี 2568 และให้บริการเต็มรูปแบบตลอดเส้นทางภายในปี 2570, การเชื่อมโยงการเดินทางและการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว และมาเลเซีย)


สำหรับการคมนาคมทางราง ได้สอบถามความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา – หนองคาย) รวมระยะทาง 609 กม. ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างเร่งรัดก่อสร้าง ระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทาง 250.77 กม. ) เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้ในปี 2571, โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และทางคู่สายใหม่ (เด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ) (บ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม), โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง, โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มทั้งสายตะวันออกและสายตะวันตก(ตลิ่งชัน – มีนบุรี), โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน – ราษฎร์บูรณะ) และแนวทางการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนา เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อระดับภูมิภาคของประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการเชื่อมต่อในระดับอาเซียนและระดับโลก ซึ่งการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในปี 2567

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการคมนาคมทางน้ำ คณะกรรมาธิการได้สอบถามความคืบหน้าของการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และการพัฒนาปรับปรุงร่องน้ำเดินเรือ ภายใต้แผนโครงการประกันความลึกร่องน้ำเศรษฐกิจ จำนวน 16 ร่องน้ำ ซึ่งในปี 2567 กรมเจ้าท่าได้เร่งดำเนินการในร่องน้ำที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น 8 ร่องน้ำ ส่วนอีก 8 ร่องน้ำ จะดำเนินการในปี 2568

สำหรับการคมนาคมทางอากาศ ได้แก่ การส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าทางอากาศ การส่งเสริมและพัฒนาการใช้ประโยชน์ของอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) การตรวจรับรองมาตรฐานสนามบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ ความคืบหน้าการพิจารณาออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ การพัฒนาศักยภาพท่าอากาศยานซึ่งไม่มีเที่ยวบินแบบประจำอย่างต่อเนื่อง หรือมีผู้โดยสารในระดับน้อยกว่า 100,000 คนต่อปี โครงการจัดตั้งท่าอากาศยานใหม่ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก


นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มีกำหนดเปิดให้บริการทางวิ่งเส้นที่ 3 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการรองรับเที่ยวบินจาก 68 เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ลดปัญหาการรอคิวนำเครื่องขึ้นและลง เป็นการพัฒนาคุณภาพการบริการของท่าอากาศยานให้ได้มาตรฐานสากล ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค สร้างโอกาส สร้างอนาคต และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้ติดอันดับ 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการได้สอบถามถึงความคืบหน้า นโยบาย แนวทางการดำเนินงานในด้านกฎหมายต่าง ๆ อาทิ ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ. …. ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ. …. ร่างพระราชบัญญัติการส่งเสริมพาณิชย์นาวี พ.ศ. …. การปรับปรุงพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 การปรับปรุงพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 การปรับปรุงพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศให้มีความสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายสุริยะ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับมาตรการความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ ได้ตั้งคณะกรรมการโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบกฎระเบียบ และวางมาตรการระยะสั้น – ระยะยาวพร้อมตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่วางไว้เพื่อให้ประชาชนได้รับความอย่างสูงสุด

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมจะนำข้อหารือในครั้งนี้ไปใช้ประกอบการพิจารณาในการขับเคลื่อนภารกิจการดำเนินงานของกระทรวงฯ เพื่อสนองตอบความคาดหวังและความต้องการของประชาชนทั้งด้านการเดินทางและการใช้บริการที่เชื่อมโยงกันในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประตูและเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาค ส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้ “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” ต่อไป.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”