“คมนาคม-สาธารณสุข-UN” ร่วมขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน

กรุงเทพ 6 พ.ย. – “คมนาคม-สาธารณสุข-UN” ร่วมขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน เชื่อมโยงข้อมูลใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ พัฒนากระบวนการออกใบอนุญาตขับรถ เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองสุขภาพและสมรรถนะผู้ขับรถ นำระบบดิจิทัลมาให้บริการ ยกระดับความปลอดภัยทางถนนของไทยสู่มาตรฐานสากล หวังลดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเหลือ 12 คนต่อแสนประชากร ในปี 2570


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายฌอง ท็อด (Mr. Jean Todt) ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ร่วมแถลงข่าวเปิดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนของสหประชาชาติ ภายใต้แคมเปญ #MakeASafetyStatement เพื่อนำการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนระดับโลกเข้ามาดำเนินการ ณ ประเทศไทย ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนทุกกลุ่มและกระตุ้น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนนระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนามในบันทึกความร่วมมือครั้งนี้

นายสุริยะ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยถือเป็นปัญหาสำคัญ และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนให้มีจำนวนลดลง ล่าสุดตามรายงานสถานการณ์โลกด้านความปลอดภัยทางถนนปี 2566 ที่จัดทำโดยองค์การอนามัยโลกพบว่าประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 25 คนต่อแสนประชากร ซึ่งถือว่ายังเป็นประเด็นท้าทายที่ทุกภาคส่วนจะต้องขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ และบรรลุตามเป้าหมายทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน 2021 – 2030 ตามปฏิญญาสตอกโฮล์ม ที่มีเป้าหมายลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนลงร้อยละ 50 ภายในปี 2573 และให้เป็นไปตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ซึ่งประเทศไทย ได้กำหนดเป้าหมายในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเป็น 12 คนต่อแสนประชากร ภายในปี 2570


นายสุริยะ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงคมนาคมมุ่งมั่นพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางถนน ซึ่งเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับประเทศ อีกทั้งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในการเดินทางให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย จึงเร่งผลักดันขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทุกมิติ อาทิ ยกระดับมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับรถ การพัฒนามาตรฐานยานยนต์ให้เป็นมาตรฐานสากล UN Regulations ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รวมถึงมีการบูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการลดอุบัติเหตุทางถนน อันนำมาซึ่งความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุขซึ่งได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน เพื่อการยกระดับและพัฒนากระบวนการออกใบอนุญาตขับรถให้มีคุณภาพ สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยจะนำระบบดิจิทัลที่เหมาะสมมาใช้ในการบริหารและการให้บริการประชาชน พิจารณาและปรับปรุงกฎระเบียบรองรับการตรวจคัดกรองสุขภาพและตรวจประเมินสมรรถนะผู้ขับรถ อีกทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาระบบให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลใบรับรองแพทย์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อพัฒนามาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนของทั้งสองหน่วยงาน อันจะมีส่วนสำคัญในการลดอุบัติเหตุทางถนนโดยรวมของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

“การแถลงข่าวเปิดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งในการสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยทางถนนระหว่างรัฐบาลไทยและสหประชาชาติ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความปลอดภัยทางถนนซึ่งเป็นภัยคุกคามชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนทั่วโลก เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกซึ่งถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการพัฒนานโยบายและมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทย นำไปสู่การบรรลุ 12 เป้าหมายระดับโลกเพื่อความปลอดภัยทางถนน พร้อมทั้งร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการขับเคลื่อนความปลอดภัยทางถนน ในการยกระดับกระบวนการออกใบอนุญาตขับรถและใบอนุญาตผู้ประจำรถในขั้นตอนการตรวจคัดกรองสุขภาพและสมรรถนะร่างกาย โดยนำระบบดิจิทัลมาใช้บริหารและให้บริการ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา ลดความสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ระบบการขนส่งทางถนนให้กับพี่น้องประชาชน” นายสุริยะ กล่าว

ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 18,000 ราย พิการกว่า 10,000 รายต่อปี และบาดเจ็บกว่า 1 ล้านราย มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 600,000 ล้านบาทต่อปี ในด้านการเยียวยารักษา กระทรวงสาธารณสุขมุ่งมั่นพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ให้ใช้ที่นั่งนิรภัยหรือคาร์ซีทสำหรับเด็ก และจัดให้มีโครงการขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ เพื่อตรวจสุขภาพประเมินความพร้อมผู้ขับขี่ โดยตั้งเป้าขับเคลื่อนคลินิกอาชีวเวชกรรมสู่การเป็นศูนย์เชี่ยวชาญการประเมินสมรรถนะทางสุขภาพของผู้ขับขี่ (Medical Fitness to Drive) ให้ได้อย่างน้อย 24 แห่งทั่วประเทศในปี 2568. -513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”