กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงข้อเสนอของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ให้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 1 ว่า ยังไม่สมควรที่จะขึ้นภาษีจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 8 เพราะจะกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องตอนนี้ ซึ่งควรรอเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ทุกฝ่ายควรศึกษารายงานดังกล่าว เพราะทำการศึกษาระบบภาษีที่ต้องปฏิรูปเปลี่ยนแปลงไว้ดีมาก ที่ได้พูดถึงภาษี 3 ประเภท คือ ควรจำแนกอัตราภาษีตามประเภทสินค้า และหากจะเพิ่มภาษีจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 8 ให้นำรายได้ที่เพิ่มไปใช้ในด้านการศึกษาและสาธารณสุขเพื่อประชาชนและนักเรียนนักศึกษาเท่านั้น ส่วนภาษีลาภลอยหรือ Windfall Gain Tax ควรนำมาใช้ได้แล้วเป็นภาษีที่เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นแบบส้มหล่น และภาษีนิติบุคคล เสนอให้บริษัทที่ทำธุรกิจในจังหวัดใดท้องถิ่นใดเสียภาษีในพื้นที่นั้น ไม่ใช่มาคำนวณภาษีรวบยอดจ่ายที่กรุงเทพมหานคร
“ผมคิดว่า การขยายฐานภาษีน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในตอนนี้ เพราะฐานภาษีเราแคบมากตัวอย่างเช่นคนไทย 70 ล้านคน อยู่ในวัยทำงาน 40 ล้านคน ยื่นแบบภาษีภงด.90/91 แค่ 10 ล้าน และเสียภาษีแค่ 4 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่คือมนุษย์เงินเดือนทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องปฏิรูปจุดนี้ซึ่งสปช.และสปท.ได้เสนอรัฐบาลไปแล้วรวมทั้งมาตรการอื่นที่น่าสนใจเช่น เพิ่มประเภทภาษี อย่างภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีสิ่งแวดล้อม ภาษีลาภลอย ซึ่งไม่กระทบคนยากคนจนและยังแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้วย” นายอลงกรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย