“เพื่อไทย”ดักทาง ส.ส.รัฐบาลเดินเกมล้มอภิปราย ม.152

พรรคเพื่อไทย 13 ก.พ.- “เพื่อไทย” ดักทาง ส.ส.รัฐบาลเดินเกมนับองค์ประชุมล้มอภิปราย ม.152 ชี้หากฉลาดอย่าหนีตรวจสอบ เผยเตรียมเปิดอภิปรายนอกสภาทันทีหากองค์ประชุมล่ม


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ รวมเวลา 32 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ภายใต้ยุทธการ “กระชากหน้ากากคนดี (?)” โดยประเด็นที่ยกขึ้นมาในการอภิปราย คือ การบริหารราชการแผ่นดิน ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ เช่น ธุรกิจสีเทา ยาเสพติด ทุจริตคอiNรัปชัน เป็นต้น

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.จะไม่เป็นองค์ประชุมเพื่อล้มการอภิปรายว่า โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น เพราะการกระทำใดที่เป็นการจงใจหรือฝ่าฝืนการตรวจสอบตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ย่อมส่งผลกระทบต่อการทำลายระบบและระบอบการปกครอง แต่หากเกิดขึ้นจริง ฝ่ายค้านก็จะมีการกำหนดวันอภิปรายนอกสภา ซึ่งมองว่า จะเป็นผลเสียกับคณะรัฐมนตรีมากกว่า เพราะไม่มีโอกาสได้ชี้แจง และจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการจงใจขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะพิจารณายื่นร้องเรียนช่องทางของกฎหมายต่อไป


ด้านนายสุทิน กล่าวว่า รัฐบาลย้ำว่าเข้ามาเพื่อปราบการทุจริตและเรียกรัฐธรรมนูญว่าเป็นฉบับปราบโกง แต่กลับพบว่ารัฐบาลนี้มีสถิติการโกงมากที่สุด ซึ่งฝ่ายค้านจะถอดหน้ากากให้ประชาชนเห็นทีละเรื่องๆ และเมื่ออภิปรายจบ ประชาชนจะเห็นว่ารัฐบาลคือคนที่ทำลายความมั่นคงของรัฐมากที่สุด ที่สำคัญรัฐบาลอ้างเทิดทูนสถาบันมากที่สุด แต่ฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นถึงมุมกลับของรัฐบาลในเรื่องนี้ และหาก ส.ส.รัฐบาลทำให้องค์ประชุมล่มจริงตามที่มีกระแสข่าว ก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลปฏิเสธการตรวจสอบ และจะได้ข้อหาว่าหนีการตรวจสอบและปิดกั้นการรับรู้ของประชาชน แต่ก็หวังว่ารัฐบาลจะฉลาดพอไม่เลือกวิธีนี้

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เลขาธิการวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านเตรียมผู้อภิปรายทั้งหมด 35 คน และแบ่งเนื้อหาออกเป็นกลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเป็นเรื่องของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ ต่อด้วยเรื่องทางสังคม ยาเสพติด การเมือง และปิดท้ายด้วยการทุจริต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง