ปทุมธานี 12 ก.พ.-หนุ่มซิ่งเก๋งพุ่งชนศาลารอรถเมล์พังยับ สาวเมียนมานั่งรอแฟนมารับถูกชนเสียชีวิตคาที่ คนขับเก๋งรอด ถนน345 (ปากซอยปลายบัว) ม.1 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 12 ก.พ. 66 ร.ต.อ ตูชัย สุระเสียง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนศาลารอรถประจำทาง มีผู้ได้รับบาดสาหัสเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณถนน345 (ปากซอยปลายบัว) ม.1 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรีบประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุขาเข้ามุ่งหน้าแยกบางคูวัด พบรถเก๋งสภาพรถพังยับเยินทั้งคัน ชิ้นส่วนรถแตกกระจัดกระจาย โดยรถเหินลอยคาอยู่ที่ศาลารอรถประจำทาง ห่างจากรถประมาณ 5 เมตร พบผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือนายอนุวัฒน์ บุญคำ อายุ 24 ปี นอนร้องโอดโอยอยู่ในสภาพข้อเท้าขวาผิดรูป และมีบาดแผลที่แขนขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและใช้ไม้ดามข้อเท้าก่อนรีบนำส่ง รพ.ปทุมธานี
นอกจากนี้ในพงหญ้าคูน้ำข้างทาง พบผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงทราบชื่อ น.ส.นันข่ายวินซุย อายุ 26 ปี ชาวเมียนมา มีบาดแผลฉกรรจ์ขาขวาเกือบขาด นอนหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่ต้องรีบทำการปั้มหัวใจ แต่ไม่นานก็สิ้นใจต่อหน้าเพื่อนๆ ร่วมงาน โดยมีแฟนหนุ่มชาวเมียนมา ที่เพิ่งเดินทางมาถึง และเมื่อทราบว่าผู้หญิงที่เสียชีวิตคือแฟนสาวที่เพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน ก็เข้ากอดศพร้องไห้โฮน่าสงสาร
เบื้องต้นจากการสอบถาม น.ส.ตุยตุยโน อายุ 34 ปี เพื่อนคนงานชาวเมียนมา ซึ่งเป็นผู้ที่โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังจะเข้าเซเว่นใกล้กับที่เกิดเหตุ และได้เห็นผู้ตาย ซึ่งเลิกงานออกกะในตอนเช้าช่วง 7 โมงและเดินมาที่ศาลารอรถประจำทาง เพื่อจะรอแฟนหนุ่มมารับ ทันใดนั้นตนก็ได้ยินเสียงดังสนั่นจึงได้รีบวิ่งออกมาดู ก็พบว่ามีคนขับกระเด็นออกมานอกรถได้รับบาดเจ็บสาหัสร้องให้คนช่วย แล้วเมื่อมองไปที่ตรงคูน้ำก็พบร่างของ น.ส.นันข่ายวินซุย จึงร้องเรียกให้คนมาช่วยนำขึ้นมาจากนั้นจึงรีบโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยและตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนขับมาด้วยความเร็ว แล้วรถเกิดเสียหลักจึงพุ่งชนหรืออาจจะหลับใน ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายหรือดื่มสุรามาหรือไม่ และจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุ ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
