กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – ศาลไม่ให้ประกัน 6 ตำรวจรีดทรัพย์นักท่องเที่ยวคาด่านตรวจหน้าสถานทูตจีน ชี้เป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์กระบวนการยุติธรรมประเทศ จำเลยเป็นตำรวจ อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานชั้นสอบสวน ราชทัณฑ์คุมตัวเข้าเรือนจำทันที
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนตลิ่งชัน พนักงานสอบสวนนำตัว ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ รอง สวป.สน.ห้วยขวาง, ร.ต.อ.ปฏิภาณ รอง สว.ธร.สน.ห้วยขวาง ปฏิบัติหน้าที่รอง สวป.สน.ห้วยขวาง, ด.ต.กฤษฎา ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง, ส.ต.อ.เฉลิมชัย ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง, ส.ต.อ.วัชรนนท์ ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง, ส.ต.อ.นันทวัชร์ ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง ผู้ต้องหาที่ 1-6 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นความผิดตามมาตรา 149, 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
กรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้นั่งรถยนต์โดยสารสาธารณะกับเพื่อนเพื่อเดินทางกลับโรงแรม ระหว่างท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ของวันที่ 5 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจหน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย บริเวณถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้เรียกตรวจค้นและพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง เรียกรับเงินสดจำนวน 27,000 บาท แล้วปล่อยตัวแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 6 นาย ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและกระบวนการในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ.-สำนักข่าวไทย