ผบ.ตร.มอบรางวัลคลิปอุบัติเหตุในโครงการอาสาตาจราจร

31 ม.ค. – ผบ.ตร. มอบรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ “โครงการอาสาตาจราจร” 180,000 บาท เริ่มใช้ระบบตัดคะแนน 3 สัปดาห์ มีผู้ถูกตัดคะแนนแล้วกว่าหมื่นราย พบจังหวัดชัยนาท ถูกตัดคะแนนมากที่สุดในประเทศ


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับมอบรางวัลและเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร ให้กับเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ รวม 28 รางวัล เป็นเงิน 180,000 บาท ประกอบด้วยคลิปอุบัติเหตุ ช่วง 7 วัน ควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 จำนวน 7 รางวัล และคลิปประจำเดือน พ.ย. และ ธ.ค.2565

ผบ.ตร.กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการสร้างความร่วมมือจากภาคประชาชน เพื่อร่วมกันเป็นตาจราจร สอดส่องการทำผิดกฎจราจรบนท้องถนน เพื่อยับยั้งการฝ่าฝืนกฎหมายบนท้องถนน โดยคลิปต่าง ๆ จะเป็นพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ตลอดจนเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษผู้ทำผิด โดยประชาชนผู้ที่พบเห็นการทำผิดกฎจราจร หรืออุบัติเหตุ สามารถส่งคลิปมาในช่องทางที่กำหนด ได้แก่ เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 คลิปสำคัญที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากประชาชนจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน


ด้าน นพ.แท้จริง กล่าวว่า เพื่อให้เกิดการรณรงค์สร้างจิตสำนึกการขับขี่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โครงการได้มีรางวัลพิเศษให้กับเจ้าของคลิปที่บันทึกเหตุการณ์อุบัติเหตุ หรือการทำผิดกฎจราจรช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2566 (29 ธ.ค.65- 4 ม.ค.66) รวมจำนวน 7 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ซึ่งผลของโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยสถิติการตัดคะแนนความประพฤติผู้ขับขี่ ซึ่งเริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 โดย 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกตัดคะแนนแล้วทั้งสิ้น 11,548 ราย ข้อหาที่มีการตัดคะแนนมากที่สุด คือใช้รถไม่แสดงเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี 3,557 ราย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถ 1,709 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 1,686 ราย ส่วนจังหวัดที่มีการตัดคะแนนมากที่สุด คือ จ.ชัยนาท 1,478 ราย, กทม. 1,427 ราย และ จ.ขอนแก่น 211 ราย

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบคะแนนการขับขี่ของตนเองได้จากเว็บไซต์ E-ticket PTM และแอปพลิเคชัน “ขับดี” หรือสามารถสอบถามจากตำรวจจราจรได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หากคะแนนถูกตัดจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ห้ามขับรถเป็นเวลา 90 วัน และหากฝ่าฝืนมาขับรถในขณะถูกสังพักใช้จะมีโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 156 จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ประชาชนร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อจะได้ไม่ถูกตัดคะแนนและช่วยกันลดพฤติกรรมเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง