กัมพูชา 29 ก.ย. – ไทยประสานกัมพูชารวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์คาตึกพาณิชย์ที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในเมืองโอเสม็ด ของกัมพูชา อ้างเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารแห่งหนึ่ง เสียหายหลักล้าน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ประสานงาน พล.ต.อ.ซอ เทศ ผบ.ตร.กัมพูชา นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ผนึกกำลังตำรวจกัมพูชา ตามรวบพนักงานคอลเซ็นเตอร์คนไทย 3 ราย คาตึกพาณิชย์ที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการ เมืองโอเสม็ด จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยจุดดังกล่าว เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบอ้างเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารแห่งหนึ่ง โทรป่วนคนไทยด้วยกัน เสียหายจำนวนมาก
สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. (PCT 5) ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากชาวไทย ที่เดินทางไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่อาคารแห่งหนึ่ง เมืองโอเสม็ด จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยได้ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่า ที่อาคารดังกล่าว มีพนักงานคอลเซ็นเตอร์เป็นชาวไทยทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 100 ราย ทำหน้าที่โทรหลอกผู้เสียหายโดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขั้นตอน ชุด PCT 5 จึงได้ประสานงานกับตำรวจกัมพูชา ล่าสุดวันที่ 28 กันยายน 2566 ได้รับรายงานว่าตำรวจกัมพูชา ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมตัวพนักงานคอลเซ็นเตอร์ชาวไทย รายสำคัญได้ 3 ราย ซึ่งทุกคนมีหมายจับไทย ในข้อหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าข้อูมลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า เราได้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาโดยตลอด จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงคิดหาวิธีที่ใช้นำมาใช้หลอกลวงเอาเงินของคนไทยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เช่นในกรณีนี้ที่ถึงขั้นหลอกผู้เสียหายว่า ข้อมูลอาจรั่วไหล หรือมีคนร้ายนำข้อมูลของท่านไปใช้ จึงอยากขอฝากเตือนพี่น้องชาวไทยทุกท่าน เมื่อมีเบอร์แปลกโทรหา อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือพนักงานบริษัทต่าง ๆ ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ขอให้ยึดหลัก ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไมโอน ไว้. -สำนักข่าวไทย