“อัจฉริยะ” เปิดหลักฐานใหม่ จนท.ดีเอสไอ ค้นคอนโดฯ อดีตกงสุลนาอูรู

กรุงเทพฯ 23 ม.ค.- “อัจฉริยะ” เปิดหลักฐานใหม่ ภาพจากกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบุกค้นห้องพักคอนโดฯ อดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ย่านห้วยขวาง โดยไม่มีหมายค้น ก่อนกลับออกไปพร้อมทรัพย์สินบางอย่าง


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดชิ้นใหม่ กรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจค้นห้องพักคอนโดฯ หรู ของอดีตกงสุลใหญ่นาอูรูย่านห้วยขวาง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ต่อเนื่องจากการบุกค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรูย่านสาทร

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจำนวน 3 คน ระดับผู้อำนวยการ (นำโดยผู้ที่ถูกจับในคดีร่วมกับเรียกรับสินบนจากชาวจีนเครือข่ายทำพาสปอร์ตปลอม) ไปแสดงตัวบอกเจ้าหน้าที่นิติคอนโดฯ ว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาสืบคดีพิเศษ โดยขอเปิดห้องดังกล่าว ซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่สถานทูตนาอูรู และพาขึ้นไปตรวจสอบ โดยภาพในกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า เวลา 17.54 น. เจ้าหน้าที่ไปเปิดห้องให้ เข้าไปประมาณ 20 นาที และกลับออกมาในเวลา 18.10 น. พร้อมทรัพย์สินบางอย่าง ซึ่งพฤติกรรมในครั้งไม่มีการแสดงหมายค้นหรือหมายจับ อีกทั้งการเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นการตบทรัพย์ต่อเนื่องมาจากพื้นที่ทุ่งมหาเมฆ ที่ไปก่อเหตุในช่วงสาย มองเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยไปให้ข้อมูลที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ในความผิดร่วมกันลักษ์ทรัพย์ในเวลากลางคืน และร่วมกันบุกรุก ซึ่งก็ขึ้นกับดุลยพินิจของตำรวจ สน.ทุ่งหาเมฆ ว่าจะดำเนินการเอง หรือส่งข้อมูลต่อให้ ตำรวจ สน.ห้วยขวางในการดำเนินคดีต่อ


นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังบอกว่าพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอดังกล่าวทำเป็นขบวนการ ก่อเหตุหลายครั้ง และเกี่ยวข้องกับการปล้นบ้านชาวจีนที่ ตำบลหนองปรือ อ.บางละมุม จ.ชลบุรี ซึ่งพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน มีการเก็บส่วย ทั้งธุรกิจบ่อทราย น้ำมันเถื่อน และสินค้าเถื่อนหนีภาษี เพื่อส่งเงินให้ผู้บริหารระดับสูงของดีเอสไอ ซึ่งตนอยากให้มีการเข้าไปตรวจสอบห้องทำงานของผู้บริหารของดีเอสไอ เชื่อว่าจะเจอหลักฐานเป็นเงินสดกว่า 100 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง