นนทบุรี 9 พ.ค. – กระทรวงพาณิชย์เรียก 8 ผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ ครอบคลุมสินค้าจำเป็นทั้งหมดหารือ เบื้องต้นได้ข้อสรุปเพิ่มมาตรการขอความร่วมมือให้มีการแจ้งกรมการค้าภายในก่อนจะทำการเปลี่ยนแปลงขนาดทุกครั้ง พร้อมให้กลับไปหาแนวทางบริหารจัดการ เพื่อมาหารืออีกครั้งสัปดาห์หน้า
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมร่วมระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ 8 ราย เช่น บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และบริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น และห้างค้าปลีก 4 ราย ได้แก่ ห้างแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี และท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อกำกับดูแลราคาสินค้าให้เป็นธรรมต่อผู้บริโภค จากกรณีการขายสินค้าราคาเดิม แต่ลดปริมาณและขนาดบรรจุภัณฑ์
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของกรมการค้าภายในพบว่าผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่ยังจำหน่ายราคาเดิม แต่มีผู้ผลิตสินค้า 2 ชนิด ได้แก่ ครีมอาบน้ำ ตราโพรเทคส์ และน้ำยาซักฟอก ตราบรีส-เอ็กเซล ที่มีการปรับขนาดบรรจุลง แต่ราคาคงเดิม ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างการขายตามต้นทุนที่สูงขึ้นจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เป็นราคาที่ไม่เกินเพดานที่คำนวณไว้ จึงถือว่าไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถดูแลและควบคุมกลไกราคาได้ดีขึ้น เบื้องต้นขอความร่วมมือผู้ผลิตจะต้องแจ้งกรมการค้าภายในทุกครั้ง หากมีการปรับขนาดหรือลดปริมาณ แม้จะไม่ใช่สินค้าควบคุมก็ตาม จากเดิมสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มที่ต้องติดตามดูแลใกล้ชิดต้องแจ้งเฉพาะการปรับราคา หรือปรับสูตรใหม่เท่านั้น และมอบให้ผู้ผลิตกลับไปหารือเป็นการภายในถึงการบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุน เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าราคาเดิม โดยกลับมารายงานผลการหารือกับกรมการค้าภายในอีกครั้งวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ เพื่อที่จะทำให้ราคาสินค้าไม่ปรับสูงขึ้น ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือห้างค้าปลีกช่วยตรวจสอบสินค้าที่มาจำหน่ายอีกครั้งว่ามีการแจ้งปรับเปลี่ยนขนาดหรือลดปริมาณหรือไม่ เพื่อเพิ่มกระบวนการตรวจสอบอีกทางหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย