นนทบุรี 26 ม.ค.-อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เตือนผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทย จับตาเวียดนามมุ่งปรับการผลิตภาคการเกษตรสู่สีเขียวเหตุจะทำให้การแข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้น แนะไทยต้องปรับตัว และมุ่งสู่การผลิตสีเขียวด้วย เพื่อคงขีดความสามารถในการแข่งขันและรักษาส่วนแบ่งตลาดส่งออกสินค้าเกษตร
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจาก นางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย เวียดนาม ถึงการปรับโครงสร้างการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลก เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้เตรียมความพร้อมรับมือการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ขณะนี้รัฐบาลเวียดนามได้ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างไปสู่เกษตรกรรมหมุนเวียนและสีเขียว โดยได้รับการยืนยันจากนาย Le Minh Hoan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ที่ระบุว่า เวียดนามกำลังปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มการบริโภคของทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพ ทำให้รัฐบาลมีนโยบายการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรสีเขียว และสร้างความร่วมมือกันในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ปี 2593
สำหรับแนวทางการดำเนินการ เวียดนามได้มีการพัฒนาการปลูกข้าวคุณภาพสูง และมีการปล่อยคาร์บอนต่ำ ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (ภาคใต้) และยังได้รับการประเมินจากองค์กรระหว่างประเทศว่าเป็นโครงการแรกในลักษณะนี้ในโลก และเป็นต้นแบบการส่งเสริมการเกษตรสีเขียวในอนาคต
ทัังนี้ นายเหงียน นู เกือง อธิบดีกรมการผลิตพืชผลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม ได้ยืนยันว่า อุตสาหกรรมการเกษตรยังได้ปรับปรุงการผลิตผลผลิตทางการเกษตรตั้งแต่การเริ่มวิจัยพันธุ์พืชไปจนถึงการพัฒนาการเพาะปลูก ที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วย และยังตั้งเป้าหมาย ที่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคการเกษตร เพื่อผลพลอยได้จากการผลิตมาบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่ด้วย โดยเวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและควบคุมการใช้ยาฆ่าแมลงในภาคเกษตรกรรม โดยยาฆ่าแมลงทางชีวภาพจะอยู่ร้อยละ 30 ของจำนวนใบอนุญาตทั้งหมดในเวียดนาม และปุ๋ยอินทรีย์ร้อยละ 30 ของจำนวนทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตทางการเกษตร โดยในปี 2593 เวียดนามคาดว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่เกษตรกรรมจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และมีวัตถุดิบร้อยละ 100 ที่รวมอยู่ในผลพลอยได้จากการเกษตรและของเสียจากครัวเรือนจะถูกนำมาใช้เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์
“เวียดนามกำลังเร่งแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศ ซึ่งเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดปัญหามลพิษ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการปรับเปลี่ยนมาเป็นเศรษฐกิจสีเขียวถือเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกและในประเทศ การที่เวียดนามเร่งการปรับโครงสร้างไปสู่เกษตรกรรมหมุนเวียนและสีเขียวจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของเวียดนามมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกเพิ่มสูงมากขึ้น ซึ่งผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทย จะต้องจับตา และติดตามการพัฒนาของเวียดนามอย่างใกล้ชิด และเร่งพัฒนาการผลิตภาคการเกษตรของไทย เพื่อมุ่งไปสู่ภาคการผลิตสีเขียวด้วย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย”นายภูสิตกล่าว.-514-สำนักข่าวไทย