อุบลราชธานี 23 ธ.ค. –ตามจับทนายอาสา สภ.เดชอุดม เครือข่ายสวมบัตรประชาชนคนจีน ขณะทำหน้าที่บนโรงพัก แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหนีล่องหน เจ้าหน้าที่ตามทั้งคืนยังไร้วี่แวว
ช่วงบ่ายวานนี้ (22 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ภาค.3 (ส่วนหน้า) เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เดชอุดม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เข้าจับกุมนายปารเมศ 59 ปี ทนายอาสาประจำสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม พร้อมพวกรวม 3 คน ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (สวมบัตรประชาชน) ขณะปฏิบัติหน้าที่ทนายความอาสาบนสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม แต่นายปารเมศ ไหวตัวทัน ชิงหลบออกด้านหลังของโรงพัก ก่อนแอบเข้ามาเอารถยนต์ขับหลบหนีออกไป เจ้าหน้าที่พยายามไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน
สำหรับเหตุการณ์สวมบัตรประชาชนในพื้นที่เดชอุดม เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้สอบสวนขยายผลจนพบว่า นอกจากปลัดอำเภอในขณะนั้นแล้วยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดสนับสนุนจัดหาคนมาทำการสวมบัตรอีก 4 ราย ซึ่่งมีนายปารเมศ ทนายความและทนายความอาสาประจำโรงพัก เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยทุกราย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายปราเมศพร้อมพวกได้หลบหนี ไม่ไปพบพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่พยายามติดตามหลายครั้ง จนต้องออกหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (22 ธ.ค)
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ตลอดทั้งวันที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ดำเนินการขอหมายจับ นายปราเมศ ยังคงใจเย็นปฏิบัติหน้าที่ทนายอาสาอยู่บนโรงพัก แต่เมื่อหมายจับออกมาเหมือนรู้ว่าต้องโดนจับ จึงหนีออกไปด้านหลังโรงพัก แล้วแอบกลับเข้ามาเอารถยนต์ที่จอดไว้ ตำรวจพยายามไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน
เจ้าหน้าที่ติดตามไปยังสำนักงานทนายความของนายปราเมศ แต่ก็ไร้วี่แวว จากนั้นชุดสืบสวนจึงเข้าไปบ้านแห่งหนึ่ง ที่ ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม เพื่อจับกุมนางจำนงค์ และนายสัตยา ผู้ต้องหาแก๊งเดียวกัน แต่ไม่พบ สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า นางจำนงค์ออกไปรับหลานที่โรงเรียน แต่เมื่อเพื่อนบ้านข้างเคียงโทรไปหานางจำนงค์ กลับถามกลับมาว่า “มีคนมาหาใช่ไหม บอกไปว่าไปไหนไม่รู้” เบื้องต้นคาดว่า นายปราเมศอาจโทรแจ้งเครือข่ายให้ทราบและหลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ออกติดตามยังพื้นที่ต้องสงสัยที่ผู้ต้องหาจะไปหลบหนีไปซ่อนตัว จนดึก จึงได้ยุติการค้นหา และใช้การสืบสวนหาข่าวให้ทั้งหมดเข้ามอบตัว. – สำนักข่าวไทย