จับแล้วทนายโกงเงินเยียวยาน้องบีมแม่หวั่นไม่ได้เงินคืน

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.- จับแล้วทนายโกงเงินเยียวยาแม่น้องบีม หลังหนีไปซ่อนตัวกับหญิงสาวคนสนิท สารภาพโกงเงินไปกว่า 3.5 ล้าน แต่มอบให้ภรรยาไปแล้ว ขณะที่มารดาน้องบีมยังกังวล กลัวไม่ได้เงินคืน


พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  เดินทางมาที่สน.บางยี่ขันเพื่อสอบปากคำ  นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความ และนางสาวฐิตาภา หรือ ภัทรวดี สวัสดี   หญิงสาวคนสนิท     ที่ร่วมกันฉ้อโกงเงินเยียวยาอุบัติเหตุกว่า 5 ล้านบาท ของครอบครัว น้องบีม เด็กหญิงพิการอายุ 14 ปี หลังถูกออกหมายจับพร้อมพวกรวม3 คน โดยอีก1 คนคือนางสาวพรปวีณ์ ชูแก้ว ภรรยาของนายพิสิษฐ์ ซึ่งตำรวจได้อายัดตัวแล้วที่เรือนจำจังหวัดชุมพร เนื่องจากนางพรปวีณ์ ถูกคุมขังในคดียาเสพติด ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่คอนโดมิเนียมย่านรามอินทราเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  โดยเบื้องต้น นายพิสิษฐ์และนางสาวฐิตาภา ให้การรับสารภาพ รับเงินจากบริษัทประกันภัย มา 4 ล้านบาท หักไว้ 5 แสนบาทเป็นค่าทนายความ ส่วนที่เหลือได้มอบให้นางสาวพรปวีรณ์ ผู้ร่วมก่อเหตุ เนื่องจากมีปัญหาทางการเงิน  


อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันไม่กังวลกับการดำเนินคดีกับทนายความ ถึงแม้จะเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญกฎหมาย แต่พยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดจริง ในส่วนของการชดใช้ทรัพย์สินคืนผู้เสียหายนั้นเบื้องต้นจะพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ต้องหาให้ยอมชดใช้เงินคืนกับมารดาน้องบีม  และจะตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อดำเนินการชดใช้คืนหากต้องมีการฟ้องร้องบังคับคดีต่อไป        

นอกจากนี้ ตำรวจจะมีการขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่ให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหาระหว่างหลบหนี รวมถึงประชาสัมพันธ์ หากใครถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงลักษณะเดียวกันให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม

ด้าน นางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ มารดาของน้องบีมยอมรับว่ารู้สึกดีใจ ที่ตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาได้แต่ยังกังวลว่าทนายพิสิฐ จะมีเงินมาคืนหรือไม่และ หากเจอหน้าอยากถามว่านี่หรือ คือสิ่งที่ทนายบอกว่าจะช่วยเหลือทางคดีอย่างดีที่สุด แต่กลับทำให้ตนและลูกเจอกับความยากลำบาก


ทั้งนี้ หลังการพูดคุยพนักงานสอบสวน ได้ให้นางสาวพรทิพย์  เข้าชี้ตัว นายพิสิษฐ์ และเพื่อนสาวบริเวณชั้น 3 ของสน.บางยี่ขัน ซึ่ง นางสาว พรทิพย์ ชี้ตัวทั้ง 2 คน ได้อย่างถูกต้อง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพผู้ต้องหาทั้ง 2 คน

สำหรับคดีดังกล่าว ศาลจังหวัดตลิ่งชันได้ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 3 คน คือ นายพิสิษฐ์ ในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม  ร่วมกันฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์  นางสาวพรปวีณ์ ชูแก้ว ภรรยานายพิสิษฐ์ ในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันยักยอกทรัพย์  และนางสาวฐิตาภา หรือ ภัทรวดี สวัสดี ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม