อุบลราชธานี 5 ส.ค.-เด็กนักเรียนเปิดใจเล่าเหตุการณ์ถูกครูลงโทษสั่งให้กราบรองเท้า 10 ครั้ง แล้วยังเอารองเท้ามาวางบนหัว ก่อนให้คลาน 4 ขาเข้าห้องเรียน หลังทำผิดระเบียบใส่รองเท้าขึ้นมาบนอาคารเรียน ด้านพี่สาวยอมไม่ได้ เข้าแจ้งความแล้ว ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกครูคู่กรณีมาให้ปากคำ
จากกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ถูกครูทำโทษให้กราบรองเท้าต่อหน้าเพื่อนๆและยังเอารองเท้านักเรียนวางบนหัวเด็กนักเรียนคนดังกล่าว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสืบหาเด็กชายในคลิปดังกล่าว จนทราบว่าคือ ดช.น้อย(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทุ่งเทิง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี โดย ดช.น้อย ได้เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วานนี้ (4 ส.ค.) ขณะนั้นเป็นช่วงสับเปลี่ยนคาบเรียน ตนได้ทำผิดระเบียบใส่รองเท้านักเรียนขึ้นมาบนอาคารเรียน จังหวะนั้นได้มีอาจารย์อ้อย(นามสมมุติ) ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ เข้ามาพบพอดี จึงได้สั่งให้ตนกราบรองเท้า 10 ครั้ง แล้วนำรองเท้ามาวางไว้บนศรีษะของตน และให้ตนคลาน 4 ขา เข้าห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนๆห้องข้างเคียงกว่า 50 คน ซึ่งระหว่างนั้นตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ถ่ายคลิปดังกล่าว
ด.ช.น้อย กล่าวอีกว่า ส่วนตัวแล้วตนก็ไม่ได้อายอะไร แต่รู้สึกว่าการทำโทษแบบนั้น เป็นการทำเกินกว่าเหตุ น่าจะใช้วิธีการตีน่าจะเหมาะสมกว่า
ด้าน น.ส.เล็ก(นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พี่สาวของ ดช.น้อย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทราบเรื่องจากเพื่อนของน้องส่งไปให้แม่ และแม่ก็ส่งต่อมาให้ตนดู เมื่อเห็นภาพของน้องต้องก้มกราบรองเท้าตนเองรู้สึกว่ายอมไม่ได้ เพราะตนเองก็เคยเรียนที่โรงเรียนนี้มาก่อน เคยทำผิดและถูกลงโทษมาก่อนตามประสาเด็ก แต่การให้เด็กกราบรองเท้าและเอารองเท้ามาวางที่ศรีษะ มันเป็นการทำเกินไปหรือเปล่า การทำโทษมีหลายวิธี จะใช้ไม้ตีก็ไม่ได้ว่า ตนเองก็เคยถูกตีมาเหมือนกัน แต่การให้ก้มกราบรองเท้ามันไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตามตนและครอบครัวได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เดชอุดม แล้ว และได้เข้าพบผู้บังคับบัญชาของครูคนดังกล่าวแล้ว ที่เหลือก็จะให้ผู้ใหญ่เป็นผู้ตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิดอย่างไร ตนก็จะยอมรับคำตัดสินของผู้ใหญ่ของโรงเรียน
ด้าน พ.ต.อ.ภัทรพล โพธิอะ ผกก.สภ.เดชอุดม เปิดเผยว่า ผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว ทางตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียกครูคู่กรณีมาให้ข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวใดๆ.-สำนักข่าวไทย