กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – กรมอนามัยร่วมกับ สสจ.ชลบุรี ตรวจร้านหมูกระทะโซนบางแสน ตัวเมือง นิคมอมตะฯ พบผลบวก 10 ตัวอย่าง ในปลาหมึกกรอบ-สไบนาง ส่งตรวจศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ เพิ่ม เตือนผู้ประกอบการนำหมูแช่ฟอร์มาลินมาจำหน่าย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี กรมปศุสัตว์ ตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิตแปรรูปวัตถุดิบเนื้อและเครื่องในสัตว์ที่จังหวัดชลบุรี พบมีการลักลอบผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเนื้อสัตว์แช่ในถังน้ำผสมฟอร์มาลินส่งขายร้านหมูกะทะและร้านอาหารนั้น กรมอนามัยขอเตือนผู้ประกอบการระมัดระวังการนำวัตถุดิบดังกล่าวมาจำหน่าย เนื่องจากสารฟอร์มาลินถูกนำมาใช้ในทางอุตสาหกรรมและทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามนำมาใส่อาหารเพื่อรักษาสภาพอาหาร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 151 (พ.ศ.2536) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 กำหนดให้สารละลายฟอร์มัลดีไฮด์ หรือฟอร์มาลิน เป็นวัตถุห้ามใช้ในอาหาร ผู้ใช้สารนี้กับอาหาร หรือทำให้อาหารนั้น เกิดพิษภัยต่อผู้บริโภค จัดเป็นการผลิตจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ หากตรวจพบการกระทำดังกล่าว จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.อรรถพล กล่าวต่อว่า กรมอนามัยได้ประสานความร่วมมือไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่นำโดยทีมหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เพื่อความปลอดภัยด้านอาหาร (Mobile Unit) และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี สุ่มตรวจสารปนเปื้อนในอาหารที่ร้านหมูกะทะ 9 ร้าน แบ่งเป็นโซนบางแสน 3 ร้าน ตัวเมืองชลบุรี 3 ร้าน และนิคมอมตะนคร 3 ร้าน 45 ตัวอย่าง มีผลบวก 10 ตัวอย่าง พบในปลาหมึกกรอบ และสไบนาง ซึ่งต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ชลบุรี เพื่อยืนยันอีกครั้ง แต่ยังไม่พบสารฟอร์มาลินในเนื้อหมู นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรียังสั่งการไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอเก็บตัวอย่างอาหารสดที่มีโอกาสจะใส่สารฟอร์มาลิน อำเภอละ 10 ตัวอย่าง เพื่อส่งต่อให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 6 ชลบุรี ตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ หากประชาชนกินอาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลินเข้าไปในปริมาณมากก็จะเกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหาร มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก ปากและคอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง อย่างรุนแรง กระเพาะอาหารอักเสบเป็นแผล หากได้รับในรูปของไอระเหยหรือสูดดมจะมีฤทธิ์ทำลายระบบทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมบวม แสบจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก ปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด ถึงขั้นเสียชีวิต หากสัมผัสสารนี้โดยตรงจะทำให้ผิวหนังระคายเคือง เกิดผื่นคัน เป็นผื่นแดงเหมือนลมพิษจนถึงผิวหนังไหม้ หรือหากสัมผัสที่ดวงตาจะระคายเคืองมากทำให้เป็นแผลได้ โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายอาหารแช่สารฟอร์มาลินมีโอกาสสูดดมไอระเหยของสารฟอร์มาลินที่ออกจากน้ำแช่ได้ตลอดเวลา จึงขอแนะนำประชาชนที่นิยมกินอาหารนอกบ้าน ก่อนกินเนื้อหมู เนื้อวัว หรืออาหารทะเลทุกครั้ง ควรสังเกตว่าลักษณะเนื้อนั้นสดผิดปกติหรือไม่ เพราะถ้ามีกลิ่นฉุน ๆ แปลก ๆ แสบจมูก ก็ไม่ควรบริโภค แต่หากไม่มั่นใจในร้านอาหารที่ไม่ได้มาตรฐานควรเลือกปรุงประกอบอาหารเอง โดยเลือกซื้อวัตถุดิบประกอบอาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัย และให้เลือกกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงการกินดิบ หรือสุก ๆ ดิบๆ .-สำนักข่าวไทย