ร่าง 2 หญิงไทยเสียชีวิตขณะเทรคกิ้งที่เนปาลถึงไทยวันนี้

เครดิตภาพ mteveresttoday

กาฐมาณฑุ 25 พ.ย.-ร่างของสองนักท่องเที่ยวหญิงไทยที่เสียชีวิตขณะเดินป่าแบบเทรคกิ้งในเนปาล จะถูกส่งกลับประเทศไทยในวันนี้ และนักท่องเที่ยวอีก 2 รายที่ป่วยหนักอยู่ระหว่างการถูกส่งตัวกลับประเทศไทยเช่นกัน แต่คนละเที่ยวบิน

แหล่งข่าวที่เนปาล เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ถึงความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวหญิงไทย 2 คน วัย 49 ปี และ 37 ปี เสียชีวิต ขณะเดินป่าแบบเทรคกิ้งที่บริเวณเชิงเขา พาสเมโสกันโตลา ในเขตมัสแตง ทางเหนือของเนปาล เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายาน ที่ผ่านมาว่า ล่าสุด จากที่ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยในเนปาลได้ประสานงานด้านต่างๆ กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ศพของนักท่องเที่ยวไทยทั้งสองคนกำลังถูกเคลื่อนย้ายส่งกลับไทยโดยคาร์โก สายการบิน รอยัล เนปาล แอร์ไลนส์ (Royal Nepal Airlines) เที่ยวบิน RNA 401 ออกจากสนามบินที่กรุงกาฐมาณฑุ เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น กำหนดถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 19.45 น. วันนี้


ส่วนนักท่องเที่ยวอีก 2 รายที่ร่วมทริปเดียวกันที่ยังมีอาการป่วยและถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในกาฐมาณฑุมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 พ.ย. นั้น ขณะนี้ ก็อยู่ระหว่างการเดินทางด้วยบริการเครื่องบินพยาบาล (air ambulance) เดินทางกลับไทย โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดของสายการบินที่บินกลับ

คณะเทรคกิ้ง 22 คน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวไทย 12 คน ลูกหาบ 8 คน และผู้นำทางหรือไกด์ 2 คน ไปเทรคกิ้งตามเส้นทางอันนาปุรณะ โดยออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ไปตามเส้นทางที่เป็นพื้นที่สูง อากาศเบาบาง และหนาวจัด ตามโปรแกรมของทริปนี้ คณะนักท่องเที่ยวไทย 12 คน ออกเดินทางจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ออกเทรคกิ้งระหว่างวันที่ 11-19 พ.ย. และกำหนดเดินทางกลับไทยวันที่ 21 พ.ย. แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน และอีก 2 คนป่วยหนัก ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ดังกล่าว


แหล่งข่าวเผยว่า นักท่องเที่ยว 2 คน เสียชีวิตจากอาการแพ้ความสูงในช่วงที่เดินข้ามเขาเข้าเขตมัสแตง เนื่องจากสภาพอากาศหนาวจัดและอยู่ในที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก ศพทั้ง 2 คนได้รับการลำเลียงขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวันที่ 19 พ.ย. เมื่อเสร็จสิ้นขบวนการชันสูตร ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กาฐมาณฑุ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเกี่ยวกับเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศไทยในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง