fbpx

ผู้ตรวจการฯ 3 ชาติลงนามปฏิญญากรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ  2 พ.ย. -ผู้ตรวจการแผ่นดินไทย-อินโดนีเซีย-ฟิลิปปินส์ รับรองปฏิญญากรุงเทพฯ ย้ำเจตนารมณ์สร้างความเป็นธรรมใน-นอกภูมิภาค แลกเปลี่ยนประสบการณ์จัดระบบเรื่องร้องเรียนปกป้องพลเมืองทุกประเทศ


ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมใหญ่เวทีผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1   (Southeast Asian Ombudsman Forum Meeting หรือ SEAOF Meeting) ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2565 โดยมี 3 ประเทศที่ร่วมก่อตั้งเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ได้แก่ ไทย – อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมีประเทศติมอร์- เลสเต ซึ่งสนใจจะเข้าเป็นสมาชิก เข้าร่วมประชุมด้วย

วันนี้(2 พ.ย.) ที่ประชุมได้ลงนามรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ และข้อตกลงความร่วมมือแบบทวิภาคีกับผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต เพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิ พัฒนากลไก และแก้ไขความทุกข์ร้อนของประชาชนนอกภูมิภาคอาเซียน 


นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงความร่วมมือแบบทวิภาคีกับผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมติมอร์-เลสเต เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกแบบไม่ปิดกั้น แม้ว่าสถาบันหรือองค์กรต่าง ๆ จะไม่ได้มีที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือไม่ได้ใช้ชื่อว่าองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเน้นกรอบความร่วมมือพัฒนาและบูรณาการกลไกการจัดการเรื่องร้องเรียน และเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนที่มีความซับซ้อน ด้วยการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการระหว่างกัน ซึ่งไทยมีประสบการณ์ในการทำงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมากว่า 20 ปี

“เวทีผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดขึ้น เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานให้ครอบคลุมองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือองค์กรจัดการเรื่องร้องเรียนในภูมิภาคที่อาจสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกในอนาคต แต่ไม่ได้เป็นประเทศสมาชิกอาเซียน และแสดงถึงจุดยืนที่ไม่ได้มุ่งให้ความเป็นธรรมหรือดูแลเฉพาะประชาชนในประเทศตนเองเท่านั้น เป็นการดูแลซึ่งกันและกัน” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินไทย กล่าว

ในโอกาสนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยได้ส่งมอบหน้าที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้กับประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สานต่อความร่วมมือสร้างความธรรมในภูมิภาค.-สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553