ร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาล รธน. ตีความเลือก สว.ขัด รธน.หรือไม่

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 19 เม.ย.- “ธีรยุทธ” ร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาล รธน.พิจารณาการเลือก สว.ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 107 เนื่องจากเห็นว่าไม่มีมาตรการหรือแนวทางป้องกันการสมยอมหรือฮั้ว ลั่น ไม่ได้ช่วยยื้อ สว.ให้อยู่ต่อ


นายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ทนายความอิสระ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน หรือผู้แทน เพื่อขอให้พิจารณาเสนอเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย กรณีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา40, 41 และ มาตรา42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา107 หรือไม่

นายธีรยุทธ เห็นว่า เจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่บัญญัติว่า “มาตรการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อให้การเลือกกันเองเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม” ต้องบัญญัติมาตรการเพื่อป้องกันผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภามีการสมยอมกันในการเลือกกันเอง โดยไม่เลือกตนเอง ต้องสันนิษฐานว่ามีการสมยอมกันในการเลือก และถือว่าการเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม จึงบัญญัติไว้ในพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 94 ( 7) มาตรา 95 (7) และมาตรา 96 (4) แต่ปรากฏว่ามาตรา 40 (1)(8) การเลือกกันเองระดับอำเภอ, มาตรา41 (1)-(8) การเลือกกันเองระดับจังหวัด และมาตรา 42 (1) ถึง (6) การเลือกกันเองระดับประเทศ  กลับไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันผู้สมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภามีการสมยอมกันในการเลือกกันเอง โดยไม่เลือกกันเอง ต้องสันนิษฐานว่ามีการสมยอม และถือว่าการเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงเป็นการบัญญัติที่อาจทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเฉพาะในขั้นตอน ผู้สมัครเลือกกันเองไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมมีผลให้บทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวตราขึ้นโดยขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107


เมื่อถามว่ากระบวนการเลือก สว.ควรชะลอไว้ก่อนรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับที่มาของ สว.ให้แล้วเสร็จก่อนหรือไม่  นายธีรยุทธ  กล่าวว่า ส่วนตัวได้เร่งทำคำร้องขึ้น เพื่อหวังเป็นกระบวนการป้องกันความเสียหายต่อประเทศ   โดยเฉพาะงบประมาณที่ต้องสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก   ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น  เมื่อมีข้อบกพร่องหรือได้บัญญัติไว้ อาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ การป้องกันเสียก่อนจะเซฟบ้านเมืองไว้ได้ หากขยับไปอีกสักนิดเพื่อรับคำวินิจฉัยก็คงจะดี

ส่วนเกรงว่าจะเป็นการช่วยยื้อเวลาให้ สว.ชุดนี้อยู่ต่อหรือไม่   นายธีรยุทธ  กล่าวว่าไม่ เนื่องรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าประชาชนหรือปวงชนชาวไทย  มีสิทธิ์เมื่อพบความไม่ชอบธรรม และมีอำนาจอย่างเต็มที่ในการเสนอเรื่องต่อหน่วยงานรัฐ ทุกหน่วยงาน  และหน่วยงานรัฐจำเป็นที่จะต้องฟังเสียงสะท้อนปัญหา ซึ่งตนก็เป็นเพียงคนหนึ่ง ที่เสนอความเห็น  ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงควรวินิจฉัย

ส่วนกระแสข่าวว่า สว.จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะอยู่ต่อ  นายธีรยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ  ว่าเห็นควรจะดำเนินการเลือกไปพลางก่อน หรือจะชะลอไว้ ดังนั้น หากคำร้องของตนมีความน่าเชื่อถือเพียงพอและมีความน่าจะเป็นได้ว่าบทบัญญัติ มาตรา  40  41  และ 42  ไม่ได้กำหนดมาตรการในการป้องกันการสมยอมกันไว้จริง ก็ควรที่จะแก้ไขกฎหมายเสียก่อน  ซึ่งการแก้ไขกฎหมายก็จะต้องเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่วมกัน  เพราะการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ สว.ก็อยู่ด้วย หากจะต้องแก้ไขเพิ่มเติม หรือ ตัดทอน สว.ก็ควรต้องอยู่ ตนจึงไม่ได้คิดว่าจะมาช่วย เพื่อให้ สว.ได้อยู่ทำงานต่อหรือไม่  เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่า ตราบใดที่ยังไม่มี  สว.ชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ ชุดเดิมก็คงต้องรั้งการทำงานไว้อยู่.-314 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี