กรุงเทพฯ 1 พ.ย.-นับถอยหลัง “APEC CEO Summit 2022” ภาคเอกชนและภาคประชาชน ประกาศความพร้อม เวทีประวัติศาสตร์แห่งภาคธุรกิจและสังคมเอเชียแปซิฟิกมั่นใจเปิดประตูแห่งการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย
ดร. พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ APEC CEO Summit 2022 Chair และ APEC Business Advisory Council Member ผู้รับหน้าที่ประธานและเจ้าภาพการจัดงาน APEC CEO Summit 2022 ประกาศความพร้อมเต็มที่สำหรับการจัดงานระหว่างวันที่ 16 – 18 พ.ย.65 นี้ ที่ประเทศไทยมีความพร้อมแล้วในทุกด้าน ไม่ว่า ด้านสถานที่จัดการประชุม การดูแลต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม การรักษาความปลอดภัย และการจัดงานเลี้ยงรับรอง โดยเฉพาะโปรแกรมการประชุมที่ครอบคลุมทุกด้านทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสังคม พร้อมยืนยันการเข้าร่วมงานจากผู้นำเขตเศรษฐกิจ ผู้นำองค์กรโลกที่สำคัญ ผู้นำทางความคิด และซีอีโอระดับแนวหน้าจากทุกเขตเศรษฐกิจในการเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังแสดงความคิดเห็น และแบ่งปันคำแนะนำที่สามารถร่วมบูรณาการได้ทั่วทั้งภูมิภาคและจะเป็นเวทีครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับผู้ประชุมจากทั่วภูมิภาคที่จะเดินทางมาพบปะในรอบ 3 ปีของการประชุม
อย่างไรก็ตาม เวทีนี้ได้เชิญผู้นำเขตเศรษฐกิจในการร่วมงาน APEC CEO Summit 2022 รวมทั้งสิ้น 13 เขตเศรษฐกิจและ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยขึ้นกล่าวปาฐกถา ซึ่งแม้การตอบรับอย่างเป็นทางการยังอยู่ในกระบวนการ แต่ ณ เวลานี้ สามารถแจ้งได้ว่า ผู้นำเขตเศรษฐกิจที่ยืนยันอย่างเป็นทางการ โดยภาคเอกชนเน้นย้ำด้านความพร้อมการประชุม APEC CEO Summit ครั้งล่าสุดที่ไทยเป็นเจ้าภาพคือในปี 2003 เป็นการประชุมแบบพบปะในรอบ 3 ปี หลังจากที่ทั่วโลกเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด อันทำให้การประชุมต้องดำเนินในรูปแบบออนไลน์นอกจากนี้ การเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้าน ได้สร้างความตื่นตัวให้ภาคเอกชนเกิดความต้องการในการหาเวทีเพื่อแสวงหาทางออกอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ การรับบทบาทเจ้าภาพในปีนี้มีนัยที่น่าสนใจในด้านสถานการณ์ ด้วยภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ซึ่งด้านภาวะขาดแคลนอาหาร วิกฤตพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อ หรือการฟื้นตัวจากโควิด เหล่านี้ทำให้ภาคเอกชนมีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก และเวที APEC CEO Summit 2022 นี้ จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนทิศทางครั้งสำคัญของโลก และจะเป็นโอกาสอันดีของไทยในการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจ หลังภาวะการแพร่ระบาดสิ้นสุดและเริ่มมีการเปิดประเทศเกิดขึ้น คาดว่าในปีนี้จะมีผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกไม่ต่ำกว่า 500-600 คน, ผู้บริหารระดับสูงในประเทศไทยกว่า 200 คน ไม่รวมคณะผู้ติดตามและทีมงาน
นอกจากนี้ ในวันที่ 16 พ.ย.65 จะเป็นการจัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมฯ ณ เดอะ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยามส่วนในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2565 จะมีการประชุมที่ ดิ แอทธินี โฮเต็ล อะ ลักชัวรี คอลเลคชั่น โฮเต็ล กรุงเทพฯรวมทั้งจะมีการจัดงานกาลาดินเนอร์ขึ้นในเย็นวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้องรอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ซึ่งภายในงานเราจะถ่ายทอดความเป็นไทยทั้งในด้านอาหาร ศิลปะวัฒนธรรม ของที่ระลึก ตลอดจนการจัดทริปท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่มาร่วมงานและคณะผู้ติดตามหลังวันงาน เพื่อสร้างความประทับใจและปลุกกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย และภายในงานได้เน้นการประชุมแบบ ‘Green Meeting’ หรือการจัดการประชุมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืน (Sustainability) พร้อมจัดทำ Carbon Footprint ที่ส่งเสริมการประหยัดพลังงานและลดปริมาณขยะ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้ร่วมผลักดันในฐานะที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่าการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีคือการที่ผู้ประกอบการไทยจะได้ตื่นตัว ในการลุกขึ้นมาปรับตัวและเรียนรู้สู่การดำเนินธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่า การนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ หรือการส่งเสริมด้านความยั่งยืนให้กับธุรกิจของตน เพื่อสร้างความสอดคล้องกับตลาดโลกในปัจจุบันที่จะทำให้แข่งขันได้ และเป็นเวทีประวัติศาสตร์ เพื่อเพิ่มทางการค้า การลงทุนระหว่างกันได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย