กกร.ห่วง​เงินบาทแข็งค่า​ จ่อหารือ​ผู้​ว่าฯ​ แบงก์​ชาติ

กรุงเทพฯ​ 2 ต.ค.​ – กกร.​กังวลภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการส่งออก ชี้ค่าเงินบาทไม่ควรเกินกว่าระดับที่ธุรกิจ​แข่งขัน​ได้ที่อัตรา​ 34.0-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ เตรียม​หารือผู้​ว่าการ​ ธปท. เกี่ยวกับ​การดูแลค่าเงินไม่ให้แข็งค่าหรือผันผวนเร็วจนเกินไป​ รวมถึง​การปรับลดดอกเบี้ย​นโยบาย​ ส่วนการส่งหนังสือ​ถึง​นายกรัฐมนตรี​เพื่อ​แสดง​ความเห็น​ทางเศรษฐกิจ​ อยู่​ระหว่าง​จัดทำ​รายละเอียด​ โดยมีสาระสำคัญ​เกี่ยวกับ​มาตรการ​กระตุ้น​เศรษฐกิจ​ การเพิ่มขีดความสามารถ​ของ SMEs​ การ​ป้อง​กันน้ำ​ท่วม​ และการสร้าง​เสถียรภาพ​ด้าน​พลังงาน


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงข่าว​ หลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยมีนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทยร่วมแถลงข่าวด้วย

นายสนั่น กล่าว​ว่า​ ที่ประชุม ​กกร.​ เห็น​สัญญาณ​การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกชัดเจนขึ้น โดยเครื่องชี้ด้านการผลิต PMI Manufacturing เดือนกันยายนของสหรัฐฯ ยุโรป จีน และญี่ปุ่นหดตัวลงมากขึ้น ส่งผลให้หลายประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว 0.5% และเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกในช่วงที่เหลือของปี เช่นเดียวกับธนาคารกลางจีนที่ปรับลดดอกเบี้ยรวมถึงภาครัฐที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ เพื่อพยุงการผลิตและการใช้จ่ายของประชาชนที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง


นอกจากนี้​ยังกังวล​เกี่ยวกับ​ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการส่งออก เงินบาทแข็งค่าจาก 36.8 มาที่ 32.3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หรือราว 12% เป็นการแข็งค่าที่มากกว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค กลายเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ หากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีอาจทำให้รายได้ในรูปเงินบาทของผู้ส่งออกกระทบได้ราว 1.8-2.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้​ มีความเป็​นไปได้​ที่ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าระดับ 34.0-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ ซึ่งเป็นระดับที่ธุรกิจแข่งขันได้ จึงเตรียม​เข้า​หารือกับผู้ว่าการ​ธนาคารแห่งประเทศไทย​เพื่อ​ให้ความเห็น​ว่า​ มีความจำเป็น​ที่​ต้อง​ให้ความสำคัญกับการดูแลค่าเงินไม่ให้แข็งค่าหรือผันผวนเร็วจนเกินไป และการสื่อสารเชิงรุกเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถรับรู้และปรับตัวได้ทันการณ์ อีกทั้งยังจำเป็นต้องมีการส่งผ่านประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งเช่น​ ต้นทุนนำเข้าสินค้าพลังงาน และวัตถุดิบโดยเฉพาะในภาคเกษตรฯ ที่ลดลงไปยังภาคการผลิตและภาคประชาชนให้ได้อย่างเป็นระบบ พร้อมเสนอให้ธนาคาร​แห่ง​ประเทศ​ไทย​เร่งพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยที่สะท้อนอยู่แล้วในตลาดการเงินล่วงหน้า (Forward Market) ปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงอย่างน้อย 0.25% ภายในปีนี้ และอีกประมาณ 0.25% – 0.5% อีกภายในปีหน้า ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อ Real Sector ได้อย่างรวดเร็ว และพิจารณาทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำลังอยู่ในช่วงการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับบริบทศักยภาพและโครงสร้างของเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้​ กกร.กำลังติดตามผลกระทบจากอุทกภัย กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และยังมีแนวโน้มต่อเนื่องจากพายุลูกใหม่ที่อาจเข้าไทยอีกในช่วงไตรมาส 4/67 คาดว่า​ น้ำท่วมรอบนี้จะทำให้เกิดความเสียหายราว 3-5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2% ของจีดีพี โดยภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด จากสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะยังสามารถขยายตัวได้ในกรอบ 2.2% ถึง 2.7% ด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ ทั้งในส่วนของการเยียวยาและมาตรการที่เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมทั้งให้ภาครัฐบูรณาการพัฒนาระบบแจ้งเตือนระดับน้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ทราบแบบ Real time ผ่านโทรศัพท์มือถือ และมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการเร่งแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตรทั้งในฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ต้นน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก


สำหรับ​แนวทาง​การ​สร้าง​เสถียรภาพ​ด้าน​พลังงาน​ กกร.​ พิจารณา​แผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศ (PDP2024) เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ​ โดยมี 6 ข้อเสนอ ดังนี้
1) การปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศ​(LT-LEDS) เพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ของประเทศไทย
2) การเพิ่มสัดส่วนของไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมร่วมกับแบตเตอรี่ (BESS)
โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านควรลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานด้วยการเร่งพัฒนาแหล่งพลังงานจาก OCA ไทย-กัมพูชา
3) ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อพิจารณาจัดหาพลังงานทางเลือกใหม่ในสัดส่วนที่เหมาะสม อาทิ ไฮโดรเจน นิวเคลียร์ (SMR) การใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน เป็นต้น
4) เร่งให้ความสำคัญการเปิดเสรีไฟฟ้า ในระยะเร่งด่วนควรเร่งการเปิดใช้ระบบโครงข่ายไฟฟ้าแก่บุคคลที่สาม (Third Party Access, TPA) ภายในปี พ.ศ. 2569 และต้องมีการกำหนดแนวทางการเปิดเสรีอย่างเป็นรูปธรรมและกรอบเวลาชัดเจนใน PDP 2024 มีการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) และส่งเสริมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) ตลอดจนมีระบบการจัดการแบตเตอรี่เก่าใช้แล้วอย่างครบวงจร
5) การพิจารณาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ และความจำเป็นในการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่โดยเทียบกับทางเลือกในการ Repowering หรือ Overhaul โรงไฟฟ้าเดิม และการกำหนดใช้เกณฑ์ดัชนีโอกาสการเกิดไฟฟ้าดับ (Loss of Load Expectation: LOLE) ที่ควรมีการให้ข้อมูล Reserve Margin ควบคู่ไปด้วย
6) เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาพลังงาน (กรอ.พลังงาน) ซึ่งให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อภาครัฐในการเสนอแนะนโยบาย แผนการบริหารและพัฒนามาตรการด้านพลังงานของประเทศ ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.). -512 – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อภิปรายนายก

“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

“บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้ มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง

ลดราคาน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ลดราคาน้ำมัน 1 บาท ช่วงสงกรานต์ ตรึง LPG -หาทางลดค่าไฟ

“พีระพันธุ์” ประธาน กบน.ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก

สกัดจับรถตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงขนยาเสพติดข้ามประเทศ

ตำรวจขยายผลสกัดจับยาบ้าลักลอบขนมาจากตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง ข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบพฤติกรรมผู้ต้องหาเปิดบริษัทซื้อรถบรรทุกขนตู้คอนเทนเนอร์ส่งน้ำข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับดัดแปลงรถตู้คอนเทนเนอร์นำยาเสพติดเข้าประเทศ

Noon Varanuch in China

“นุ่น วรนุช” ลุคสวยสะกด ร่วมรายการวาไรตี้จีน

ฉางซา 24 มี.ค. – “นุ่น วรนุช” ดารานักแสดงชื่อดังของไทย โชว์ความสามารถในรายการ “ไรด์ เดอะ วินด์” (Ride The Wind) หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 ของช่องแมงโกทีวี (Mango TV) ในจีน ซึ่งเริ่มต้นออกอากาศตอนแรกเมื่อวันศุกร์ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นุ่น วรนุช นักแสดงหญิงชาวไทย เข้าร่วมบันทึกเทปรายการไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 โดยเธอได้ร้องเพลง “พิง” ของนนท์ ธนนท์ ฉบับภาษาไทย-ภาษาจีน บนเวทีริมทะเลที่อำเภอปกครองตนเองหลิงสุ่ย กลุ่มชาติพันธุ์หลี มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง เป็นรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังที่ออกอากาศมา 6 ซีซันแล้ว เปิดโอกาสให้ดารานักแสดงหญิงจากทั่วโลกมาทำการแสดงด้วยเป้าหมายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยซีซันก่อนหน้านี้มีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างใหม่ ดาวิกา […]

ข่าวแนะนำ

อุุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กทม.ฝนฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่

“ผศ.พิมล” นั่งประธานโอลิมปิคไทยคนที่ 8

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานคณะคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนที่ 8 โดยนับเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่มีตำแหน่งทางทหาร

โจรชุดไรเดอร์บุกชิงทอง 30 บาท กลางห้างดังย่านบางแค

ล่าโจรแต่งชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองห้างดัง ย่านบางแค กวาดทอง 30 บาท มูลค่าเกือบ 1.5 ล้านบาท ไล่กล้องวงจรปิดพบเดินเท้าออกมาจากซอยข้างห้าง ก่อนทิ้งเสื้อไรเดอร์หนี

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ ต่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล “ทักษิณ” ก็กลับประเทศ ชี้ “ทักษิณ“ ได้รับความไม่ยุติธรรมตลอด 20 ปี บอกลาออกจากความเป็นลูกสาว-ความเป็นแม่ไม่ได้ ขอวิจารณ์การทำงานจะเป็นประโยชน์มากกว่า