28 หน่วยงานตั้งศูนย์พีอาร์ช่วยแจงปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ-ล้นตลาด

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – หอการค้าไทย ผนึกกำลังภาครัฐและภาคเอกชน 28 หน่วยงานตั้งศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรฯ เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ-ล้นตลาดของไทย


ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการคนที่ 1 หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าหอการค้าไทยและ 28 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเล็งเห็นว่าภาคเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศมีประชากรที่อยู่ในภาคเกษตร จำนวน 7.8 ล้านครัวเรือน และกำลังแรงงานภาคเกษตรประมาณ 12 ล้านคน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.50 ล้านล้านบาทต่อปี จึงถือว่าภาคเกษตรและอาหารเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าภาคเกษตร ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านรายได้ ผลผลิต และคุณภาพ ด้วยปัจจัยภายในและภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อาทิ ความผันผวนของสภาพอากาศ  ปัญหาภัยแล้ง โรคระบาดในสัตว์บก สัตว์น้ำ รวมไปถึงโรคระบาดในพืช ส่งผลให้สินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ ตลอดจนการแข่งขันในตลาดส่งออกของโลกที่มีแนวโน้มรุนแรงสูงขึ้น จากกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอุปสรรค ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลผลิต และรายได้ของเกษตรกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย 28 หน่วยงาน จึงได้ลงนามความร่วมมือว่าด้วย เรื่อง การขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อแก้ไขวิกฤตของภาคเกษตรและอาหารในภาวะที่สินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำให้เป็นรูปธรรม ตลอดจนพัฒนาแนวทางการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตเกษตรกร รวมทั้งคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตรและอาหาร

ทั้งนี้ เจตนารมณ์ความร่วมมือฯ ดังนี้ ภาคีหน่วยงานภาครัฐ โดย

  1. รวบรวมข้อมูลผลผลิตสินค้าเกษตรตามฤดูกาลและจัดส่งข้อมูลให้ศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางและนำมาใช้ข้อมูลร่วมกัน
  2. รวบรวมผลวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์สินค้าเกษตร ได้แก่ 1) พืชผัก ผลไม้ 2) ประมง และ 3) ปศุสัตว์ที่หน่วยงานต่างๆ จัดทำไว้เพื่อเตรียมความพร้อมในการประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรในกรณีที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำไปยังผู้แปรรูปและผู้จัดจำหน่ายโดยตรง
  3. ส่งเสริมแนวทางยกระดับด้วยการพัฒนาตลาดล่วงหน้าและวิจัยเพื่อแปรรูปสินค้าเกษตรในกรณีที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรทั้งห่วงโซ่อุปทาน
  4. ประชาสัมพันธ์ภารกิจของศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร ในราชการส่วนภูมิภาคและเอกชนที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่

ขณะที่ ภาคีหน่วยงานภาคเอกชน โดย 1. นำผลวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์สินค้าเกษตรที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำ มาวางแผนช่องทางการตลาดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคและโรงงานแปรรูป


  1. ส่งเสริมแนวทางยกระดับด้วยการพัฒนาตลาดล่วงหน้าและวิจัยเพื่อแปรรูป     สินค้าเกษตรในกรณีที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรทั้งห่วงโซ่อุปทาน
  2. ประชาสัมพันธ์ภารกิจของศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร ไปยังเครือข่ายภูมิภาคทุกพื้นที่ เพื่อให้ความร่วมมือกับศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร ดังนั้น ภาคีเครือข่ายได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารหรือ ศูนย์ AFC (Agriculture and Food Coordination and Public Relations Center) ขึ้น โดยจะทำหน้าที่ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหารทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ  ผ่านความร่วมมือตั้งแต่ระดับราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และภาคเอกชน อาทิ เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด สมาคมการค้าต่างๆ และค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) ให้สามารถมีช่องทางการขาย หรือต้องการจะทำ Contract Farming โดยขายให้กลุ่มผู้ค้าส่งสมัยใหม่ ภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือโรงงานแปรรูป
    ในขณะเดียวกัน ศูนย์ AFC จะทำหน้าที่ประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพยากรณ์สินค้าเกษตรและอาหาร โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะช่วยประเมินสถานการณ์สินค้าเกษตรที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำร่วมกับภาคีเครือข่าย และนำมาวางแผนช่องทางการตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค ภัตตาคาร ร้านอาหาร ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และโรงงานแปรรูป เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือการขับเคลื่อนศูนย์ AFC ได้ริเริ่มช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำแล้ว ดังนี้

  1. สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ได้นำร่องความร่วมมือการรับซื้อวัตถุดิบ สัตว์น้ำกลุ่มปลาโอของไทยจากเรือประมงไทย ร่วมกับ สมาคมประมงอวนล้อมจับ (ประเทศไทย) เพื่อผลักดันและสนับสนุนการใช้วัตถุดิบสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอ (โอดำ โอลาย และโอหลอด) ที่ได้จากเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย โดยสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ได้เตรียมการช่วยรับซื้อสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอ (ในช่วงเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม 2567) จำนวน 20 ล้านกิโลกรัมหรือคิดเป็นมูลค่า 800 ล้านบาท
  2. สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ได้ร่วมมือกับ สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ในการรับซื้อวัตถุดิบปลาทะเลเพื่อนำไปผลิตเป็นเนื้อปลาบด (ซูริมิ) ที่ได้จากเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย โดยจะรับซื้อวัตถุดิบสัตว์น้ำในราคา
    ที่สูงขึ้น 1-2 บาทต่อกิโลกรัม
  3. สมาคมภัตตาคารไทย ได้ร่วมมือกับ สมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาทะเลไทย ในการส่งเสริมและยกระดับการบริโภคปลากะพงขาวของไทย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกระจายสินค้าไปยังสมาชิกสมาคมภัตตาคารไทยและผู้บริโภคโดยตรง ตลอดจนการร่วมประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ คุณภาพ และมาตรฐานสินค้าปลากะพงขาวของไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคธุรกิจและเกษตรกร ทั้งหมดนี้ คือ ความตั้งใจของ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง และ 28 หน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อแก้ไขสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ สุดท้ายนี้ ท่านสามารถแจ้งปัญหาราคาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำและล้นตลาด ได้ที่หน่วยงานในจังหวัด อาทิ หอการค้าจังหวัด เกษตรจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด  เพื่อช่วยประสานงานกับศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (AFC) หรือ ส่งผ่านแพลตฟอร์มแจ้งปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำ ได้ที่เว็บไซต์หอการค้าไทย www.thaichamber.org หรือติดต่อโดยตรงเข้าศูนย์ AFC โทร. 02-018-6888 ต่อ 2600 , 6070 , 5480 ได้. -514-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]