มอสโก 30 ต.ค.- รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นเป็นคนกลางให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมทะเลดำแล้ว สร้างความกังวลให้แก่ความพยายามคลี่คลายวิกฤตอาหารโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
รัสเซียแจ้งต่อนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เมื่อวันเสาร์ว่า ขอระงับการเข้าร่วมข้อตกลงทะเลดำอย่างไม่มีกำหนด เพราะไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้แก่เรือพลเรือนที่เดินทางภายใต้ข้อตกลงนี้ ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ยูเครนใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน 16 ลำ โจมตีกองเรือทะเลดำของรัสเซียเมื่อเช้าวันเสาร์ ใกล้กับเมืองเซวาสโตโปล บนคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่ง โดยมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของกองทัพเรืออังกฤษช่วยเหลือการก่อการร้ายดังกล่าว
การถอนตัวของรัสเซียจะทำให้ยูเครนไม่สามารถส่งออกธัญพืชจากท่าเรือสำคัญริมทะเลดำ เนื่องจากมีกองเรือรัสเซียปิดล้อมอยู่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ตำหนิว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ผู้คนอดอยากมากยิ่งขึ้น ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหารัสเซียว่าใช้อาหารเป็นอาวุธ ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้ยูเอ็นและกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ตอบโต้อย่างหนักต่อการกระทำที่ไร้เหตุผลของรัสเซีย และขับรัสเซียออกจากจี 20 ด้วย เพราะเห็นได้ชัดเจนว่ารัสเซียพยายามขู่เรื่องจะทำให้เกิดความอดอยากเป็นวงกว้างในแอฟริกาและเอเชีย
ข้อตกลงทะเลดำตั้งเป้าให้ยูเครนส่งออกธัญพืชได้เดือนละ 5 ล้านตัน ซึ่งเป็นระดับก่อนเกิดสงคราม โดยส่งออกนับตั้งแต่ลงนามเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม จนถึงขณะนี้แล้วมากกว่า 9 ล้านตัน ประกอบด้วยข้าวโพด ข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากดอกทานตะวัน ข้าวบาร์เลย์ เรปซีด ถั่วเหลือง ข้อตกลงจะหมดอายุในวันที่ 19 พฤศจิกายน รัสเซียแจ้งหลายครั้งว่า มีปัญหาในการดำเนินการหลายประการ ขณะที่ยูเครนร้องเรียนว่า รัสเซียขัดขวางเรือเกือบ 200 ลำไม่ให้เข้าไปขนตู้สินค้าบรรทุกธัญพืช.-สำนักข่าวไทย