กทม 2 ก.พ. – รองโฆษกรัฐบาล แนะเลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้ง ยึดหลัก “1 เช็ก 3 เปลี่ยน 1 ประเมิน” เตือนการสวมหน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกาย อาจทำให้หายใจไม่ทัน
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขแนะนำวิธีการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างปลอดภัยในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยแนะนำให้ยึดหลัก “1 เช็ก 3 เปลี่ยน 1 ประเมิน” ดังนี้
“1 เช็ก” เช็กค่าฝุ่นก่อนออกกำลังกาย หากค่าฝุ่นสูงกว่า 37.5 มคก./ลบ.ม (สีส้ม) ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรหลีกเลี่ยง ส่วนประชาชนทั่วไปให้เลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งช่วงเช้า บริเวณริมถนน หรือบริเวณที่มีการก่อสร้าง หากสูงกว่า 75 มคก./ลบ.ม (สีแดง) ให้ออกกำลังกายในอาคารแทน
“3 เปลี่ยน” คือ เปลี่ยนเวลามาออกกำลังกายในช่วงบ่ายหรือเย็น เปลี่ยนสถานที่จากกลางแจ้งเป็นในร่ม และเปลี่ยนรูปแบบจากการออกกำลังกายหนัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน เป็นต้น มาเป็นการออกกำลังกายเบาๆ
“1 ประเมินตนเอง” คือ ก่อนและระหว่างออกกำลังกายทุกครั้ง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ให้งดหรือหยุดออกกำลังกายทันที
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนประเมินค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ดังนี้ 1) ค่า AQI อยู่ที่ 0-60 ถือว่าปลอดภัยในการออกกำลังกายกลางแจ้ง (Outdoor) 2) ค่า AQI 60-100 สามารถออกกำลังกายได้ แต่ลดความถี่ออกกำลังกายกลางแจ้งลง 3) ค่า AQI 100-150 แนะนำให้เข้ายิมหรือว่ายน้ำในสระว่ายน้ำระบบปิด และ 4) ค่า AQI เกินกว่า 150 แม้ออกกำลังกายในร่มก็จำเป็นต้องมีเครื่องกรองอากาศ สำหรับการใส่หน้ากากอนามัยชนิด N95 ขณะออกกำลังกายซึ่งมีความหนา ที่ส่วนใหญ่จะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือการใส่ขณะพ่นสีที่ต้องมีทั้งหน้ากากครอบตาด้วย อาจทำให้หายใจไม่ทัน ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยที่มีความหนาขณะออกกำลังกายจะทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักมากขึ้น และอาจเป็นอันตรายในคนที่มีโรคประจำตัว
“การออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงมีฝุ่น PM 2.5 จำเป็นต้องคำนึงถึงสุขภาพและคุณภาพอากาศเป็นหลัก ขอให้ใช้ดุลพินิจ โดยคำนึงถึงการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะสม และติดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ” นางสาวศศิกานต์ ระบุ.-319-สำนักข่าวไทย