fbpx

“หมอสอง” เปิดใจหลังถูกลักพาตัว เรียกค่าไถ่ในต่างแดน

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – “หมอสอง” เปิดใจหลังถูกลักพาตัว เรียกค่าไถ่ในต่างแดน ย้ำไปกับบริษัททัวร์ที่ไว้ใจได้ เผยนาทีถูกจับกุม-เจรจานายใหญ่ ประสานครอบครัว ทำตามข้อเรียกร้องของคนร้าย


จากกรณีที่ “หมอสอง” น.พ. นพรัตน์ รัตนวราห แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งชื่อดัง และเจ้าของเพจ หมอสองท่องโลก ได้เดินทางไปท่องเที่ยวเพียงคนเดียวในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และแอฟริการวม 9 ประเทศ เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่ 12 กันยายน – 3 ตุลาคม โดยระหว่างทริปหมอสองมีการอัปเดตแชร์เรื่องราวอยู่เป็นระยะ กรทั่งขาดการติดต่อกับคนใกล้ชิด และไม่มีการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียล เมื่อ 28 กันยายน ทำให้คนใกล้ชิด เริ่มออกตามกับบริษัททัวร์ จนถึงรู้ว่าหมอสองโดนลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ 5.7 ล้านบาท รวมเวลา 25 วัน และได้รับการช่วยเหลือ เดินทางกลับถึงไทยอย่างปลอดภัย เมื่อเช้าวันอังคารที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุดเวลาประมาณ 17.00 น. หมอสอง เปิดแถลงข่าว ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่าก่อนหน้านี้ มีการรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อนไป จากความเป็นจริง จึงอยากชี้แจงต่อสังคมและสื่อมวลชนว่าการเดินทางดังกล่าว ไปกับบริษัททัวร์ที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่ทัวร์เถื่อน และเคยไปกับบริษัททัวร์แห่งนี้มาแล้วหลายครั้ง มีการเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ และขอไปในสถานที่ปลอดภัย ทั้งนี้ นอกจากการทำงานเป็นแพทย์ศัลยกรรมแล้ว การท่องเที่ยวก็เป็นอีก 1 ความสุขของชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา เดินทางไปท่องเที่ยวมาแล้ว 190 ประเทศ เป้าหมายการเดินทาง ต้องไป ให้ครบทั่วโลก 198 ประเทศ ขณะนี้เหลืออีก 10 ประเทศที่ยังไม่ได้ไป จึงเป็นที่มาของการเดินทางไปประเทศในลักษณะนี้


โดยเส้นทางการเดินทาง คือ อัฟกานิสถาน ชาด ไนเจอร์, บูร์กินาฟาโซ, มาลี, เซาตูแม, อิเควทอเรียลกินี แต่การเดินทางหยุดชะงัก เมื่อวันที่ 22 กันยายน ขณะเดินทางจาก ประเทศบูร์กินาฟาโซ เพื่อเข้าประเทศมาลี และจะต้องไปเช็กพอร์ทพาสปอร์ต เข้าประเทศมาลี แต่ระบุจุดแน่ชัดไม่ได้ โดยไปกับคนขับรถ และไกด์อีกคน ซึ่งเป็นคนบูร์กินาฟาโซ แต่ระหว่างเดินทาง ได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น แต่คนขับรถสามารถขับผ่านจุดนั้นไปได้ แต่ไปเจออีกจุดมีคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้จอดรถ แล้วบังคับให้ขับวกกลับไปจุดเดิม มีคนร้าย 5-6 คน มีอาวุธปืน วิ่งกรูเข้ามาจับกุม ผูกตา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ดันเราขึ้นรถ มัดมือ ขับพาออกไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งรายล้อมไปด้วยป่า ยึดโทรศัพท์มือถือ พาไปนั่งใต้ต้นไม้เพื่อพูดคุย และบอกว่าหากไม่ใช่คนที่พวกเขาต้องการ จะปล่อยตัวไป แต่กลับถูกพานั่งมอเตอร์ไซค์ออกไปอีกสถานที่ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 8 ชม. เพื่อไปพบเจ้านายของเขา ซึ่งเป็นสถานที่มีลักษณะป่า มีบ้านดิน และให้พักในเต็นท์ โดยขณะนี้รู้ว่าถูกลักพาตัวแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธกลุ่มไหน โดยรุ่งขึ้น พยายามหลบหนี แต่ไปได้ไม่ไกลก็ถูกจับ เพราะเข้าไปสอบถามขอความช่วยเหลือจากกลุ่มคนบริเวณนั้นและถูกจับกลับไปที่เติม โดยมีการนำโซ่ตรวนใส่ข้อเท้า ใส่กุญแจมือ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาทรมาน ทุกข์ใจ ยอมแลกทุกอย่างเพื่ออิสรภาพตัวเอง

หมอสอง เล่าต่อมา เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 3 สัปดาห์ วันที่ 18 ตุลาคม ได้เจอนายใหญ่ และมีการพูดคุยเจรจา โดยนายใหญ่ได้เรียกเงิน ซึ่งตกลงจ่ายให้กับกลุ่มคนร้าย และระหว่างนั่นได้โอกาสใช้โทรศัพท์ เพื่อติดต่อ แม่ และแฟนสาว เพื่อประสานงานทำตามข้อเรียกร้องของคนร้าย โดยแฟนสาว ใช้เวลาประสานงานประมาณ 3 วัน ดำเนินการกระทั่งถูกปล่อยตัวออกมา เมื่อ 22 ตุลาคม ซึ่งระหว่างการถูกลักพาตัว ก็มีอุปกรณ์ ยังชีพหลายอย่าง เช่น ยาดม กระจก ปอกแขน ยาสเตียรอยด์ ช้อนส้อม ทั้งนี้ส่วนตัวไม่คิดแจ้งความกับผู้ก่อเหตุ เพราะมองว่า ข้อมูล ความชัดเจน กลุ่มคนร้าย ตนไม่มีรายละเอียด คิดว่าการแจ้งความทำได้ แต่คงไม่ได้อะไร ส่วนบริษัท ทัวร์ ได้พูดคุยกันเบื้องต้น แต่คงมีการลงในรายละเอียดอีกครั้ง และยังไม่ได้ คิดฟ้องร้องกับบริษัททัวร์

ด้าน แม่หมอสอง บอกว่า ระหว่างที่ลูกหายไป กินไม่ได้นอนไม่หลับ กระทั่ง ลูกโทรกลับมา ก็เริ่มคลายกังวลได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้

“นิกร” เผยร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้ ชง ครม. เป็นเจ้าภาพ ยกร่าง-เคาะปม ม.112 จะรวมหรือไม่ หวั่นคําวินิจฉัยศาลฟันก้าวไกล พ่นพิษ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว