อินเดียทำลายวัคซีนโควิดหมดอายุ 100 ล้านโดส

นิวเดลี 21 ต.ค. – สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่าสถาบันฯ จำเป็นต้องทำลายทิ้งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นเอง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โควิชิลด์ จำนวน 100 ล้านโดส เนื่องจากวัคซีนเหล่านี้หมดอายุในเดือนกันยายนที่ผ่านมา


นายอดาร์ พูนาวัลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สถาบันฯ มีวัคซีนโควิชิลด์อยู่ในสตอกราว 100 ล้านโดส และวัคซีนเหล่านี้ซึ่งมีอายุ 9 เดือน หมดอายุในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสถาบันฯ ได้หยุดผลิตวัคซีนโควิชิลด์ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน เนื่องจากประชาชนมีความต้องการฉีดวัคซีนโควิดลดลง ทั้งยังระบุว่าสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียจะหันไปผลิตวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกา เพื่อนำมาใช้ในประเทศแทน ทั้งนี้ มีประชาชนอินเดียกว่าร้อยละ 90 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิชิลด์

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า มีชาวอินเดียกว่า 2,000 ล้านคนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ในจำนวนนี้มีประชาชนกว่าร้อยละ 70 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 โดส ทางการอินเดียได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า และประชาชนอายุตั้งแต่ 60 ปี ที่มีโรคประจำตัว ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ ขณะนี้อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 44.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 528,900 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก