โตเกียว 11 พ.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นจะทำลายยาต้านโควิด-19 ชนิดรับประทานประมาณร้อยละ 77 ของที่ซื้อมาในช่วงที่โควิดระบาด เนื่องจากเป็นยาที่คงเหลือมาจนถึงปัจจุบันและหมดอายุแล้ว
กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่นแจ้งว่า ซื้อยาเม็ดโซโควา (Xocova) ผลิตโดยบริษัทชิโอโนกิของญี่ปุ่น สำหรับผู้ป่วย 2 ล้านคน ยาแคปซูลลาเกวริโอ (Lagevrio) ผลิตโดยบริษัทเมอร์คของสหรัฐ สำหรับผู้ป่วย 1.6 ล้านคน และยาเม็ดแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐ สำหรับผู้ป่วย 2 ล้านคน แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของยาที่ซื้อมาทั้งหมด
เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นคำนวณจากข้อมูลปริมาณการสั่งซื้อและแจกจ่ายยาของกระทรวงฯ ว่า รัฐบาลได้ซื้อยาต้านโควิดชนิดรับประทานสำหรับผู้ป่วย 5.6 ล้านคน แต่คงเหลือสำหรับผู้ป่วยมากถึง 4.3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 77 ของที่ซื้อมา โดยมีโซโควาเหลือสำหรับผู้ป่วย 1.77 ล้านคน ลาเกวริโอเหลือสำหรับผู้ป่วย 780,000 คน และแพ็กซ์โลวิดเหลือสำหรับผู้ป่วย 1.75 ล้านคน ยาแต่ละขนานมีราคาต่อผู้ป่วย 1 คนที่ 52,000 เยน (ราว 12,200 บาท) 94,000 เยน (ราว 22,050 บาท) และ 99,000 เยน (ราว 23,220 บาท) ตามลำดับ ดังนั้นยาที่ต้องทำลายจะมีมูลค่ารวม 300,000 ล้านเยน (ราว 70,370 ล้านบาท)
กระทรวงฯ เผยว่า รัฐบาลจะจ่ายยาให้แก่ประชาชนในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หลังจากที่ได้ลดระดับสถานะทางกฎหมายของโควิดลงเป็นโรคระดับเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ทำลายวัคซีนป้องกันโควิดจำนวน 240 ล้านเข็ม หลังจากลงนามสั่งซื้อในเบื้องต้น 930 ล้านเข็ม และยกเลิกไปบางส่วน กระทรวงฯ แถลงต่อรัฐสภาว่า วัคซีนที่ถูกทำลายมีมูลค่า 665,300 ล้านเยน (ราว 156,050 ล้านบาท).-814.-สำนักข่าวไทย