บุรีรัมย์ 17 เม.ย.-เพลิงไหม้ศาลาวัดดังบุรีรัมย์ รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสยังคงสภาพสมบูรณ์ไม่เสียหาย ชาวบ้านเชื่อศักดิ์สิทธิ์แห่สรงน้ำขอพร
ร.ต.อ.อัครเดช เพ็งวงษ์ ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้ศาลาการเปรียญวัดโพธิ์ทอง อำเภอเมือง จึงระดมรถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน ร่วมดับไหม้ที่กำลังโหมลุกไหม้ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ซึ่งเป็นศาลาการเปรียญเก่าแก่มีอายุกว่า 50 ปี และเป็นไม้เกือบทั้งหลัง ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบแต่ศาลาการเปรียญ รวมทั้งเครื่องอัฐบริขาร และพระพุทธรูปที่อยู่ภายในศาลาถูกเพลิงเผาวอดเสียหาย หลังเพลิงสงบชาวบ้านพากันเข้าไปตรวจดูพบพระพุทธรูป “รูปหล่อเหมือนหลวงพ่อทิพย์” อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่มรณภาพไปแล้วหลังจากก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังดังกล่าว ยังคงสภาพสมบูรณ์ไม่เสียหาย ชาวบ้านจึงช่วยกันหามออกมาไว้ด้านนอก เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์หรือความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทิพย์ ทำให้ไม่ถูกไฟไหม้ พากันมาสรงน้ำและกราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้ยังพบธนบัตรที่ปลุกเสกไว้เป็นสิ่งของมงคลหลายฉบับก็มีร่องรอยไหม้เพียงเล็กน้อย ส่วนรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคง ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งองค์ เมื่อชาวบ้านเห็นถึงกับร่ำไห้ ช่วยกันนำน้ำมาชำระล้างทำความสะอาด
พระไชยันต์ กันตะวิโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ทั้งเจ้าอาวาสและพระลูกวัดทั้ง 5 รูป ได้ออกไปบิณฑบาตกันหมด พอกลับจากบิณบาตร เห็นควันไฟลุกไหม้มาจากด้านหลังศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นห้องครัว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แต่เนื่องจากศาลาการเปรียญเป็นไม้เก่าเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วไม่สามารถสกัดเพลิงได้ทัน เพลิงจึงได้ไหม้ศาลาการเปรียญวอดเสียหายทั้งหลัง คาดมูลค่าความเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท
ด้าน น.ส.เมตตา สินยบุตร นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ บอกว่าแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นทางวัดก็ได้ตั้งตู้รับบริจาค พร้อมทั้งได้ประสานทาง อบต.พระครู กรรมการหมู่บ้าน ทำการเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคปัจจัยจากพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธา เพื่อร่วมระดมปัจจัยในการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย เพื่อให้มีสถานที่ในการประกอบกิจของสงฆ์ และให้พระได้มีกุฏิสำหรับจำวัดด้วย.-สำนักข่าวไทย
