กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – อธิบดีกรมชลประทานระบุ ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 12.00 น. ที่ผ่านมา โดยปรับแบบขั้นบันไดซึ่งจะถึงอัตรา 1,400 ลบ.ม./วินาทีในเย็นนี้ เพื่อรองรับน้ำเหนือไหลหลากจากฝนที่จะตกเพิ่มในภาคเหนือในช่วงวันที่ 20 – 22 ส.ค. ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ คาดระดับน้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก 20-40 เซนติเมตร
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สำนักชลประทานที่ 12 ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ. ชัยนาท สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์มีน้ำไหลผ่าน 1,430 ลบ.ม./วินาทีมากกว่าเมื่อวานซึ่งอยู่ที่อัตรา 1,408 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 4.71 เมตร ประกอบกับน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานีและลำน้ำสาขาไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้แนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้น กรมชลประทานจึงจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่เวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา โดยเป็นการปรับแบบเป็นขั้นบันไดไปจนถึงอัตรา 1,400 ลบ.ม./วินาทีในเวลา 18.00 น. ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20 – 40 เซนติเมตร
สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่อาจได้รับผลกระทบได้แก่
- คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
- คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
- ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
ทั้งนี้ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า อย่างเต็มศักยภาพ โดยคำนึงถึงพื้นที่ลุ่มต่ำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเเล้วเสร็จ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังสำนักงานชลประทานในพื้นที่หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน.-สำนักข่าวไทย