ทำเนียบ 16 ต.ค.- ศปช. ยืนยันวันนี้ที่ประชุมสรุป กทม. และจังหวัดภาคกลาง เบาใจได้ มั่นใจน้ำไม่ท่วมแน่นอน หลังเขื่อนเจ้าพระยาลดปล่อยน้ำใกล้สู่ภาวะปกติ ส่วนภาคใต้ฝนยังหนัก เตือนเฝ้าระวังดินถล่ม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากแนวโน้มฝนภาคเหนือ ภาคกลางที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ ลดลงเหลือ 1,808 ลบ.ม./วินาที และการระบายน้ำล่าสุด (16 ต.ค. 67 เวลา 06.00 น.) ศปช. ปรับลงเหลือ 1,451 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่เคยได้รับผลกระทบใกล้กลับคืนเข้าสู่ภาวะปรกติ เช่น คลองโผงเผง วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง คลองบางบาล แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี มีระดับน้ำลดลง
ศปช.รายงานต่อไปว่า เมื่อเวลาประมาณ 9 นาฬิกาวันนี้ ที่สถานี C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 1,326 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มลดลงและจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดท้ายน้ำภาคกลาง โดยจากการปรับลดการระบายน้ำวันนี้ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนจะลดลงอีก 20 – 30 ซม.โดยที่ประชุม ศปช. คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้า หากไม่มีฝนตกเพิ่ม จะสามารถปรับลดการระบายน้ำเหลือ 700-800 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะช่วยให้จุดที่ต่ำที่สุดของลุ่มเจ้าพระยา ที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ”
ส่วนที่ภาคใต้ นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า จากปริมาณฝนที่ยังตกหนัก ถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ยังคงมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่มอย่างต่อเนื่องใน 13 จังหวัด โดย ศปช. ขอแจ้งเตือนในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มในพื้นที่ 13 จังหวัด เฝ้าระวังและติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (บางสะพาน บางสะพานน้อย)
ภาคใต้ 12 จังหวัด จ.ชุมพร (ท่าแซะ พะโต๊ะ) จ.สุราษฎร์ธานี (คีรีรัฐนิคม กาญจนดิษฐ์) จ.นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง ช้างกลาง) จ.กระบี่ (เมืองกระบี่ เขาพนม เกาะลันตา) จ.ภูเก็ต (เมืองภูเก็ต กะทู้ ถลาง) จ.ตรัง (ย่านตาขาว ปะเหลียน ห้วยยอด นาโยง) จ.สตูล (ควนโดน ควนกาหลง ละงู ทุ่งหว้า มะนัง) จ.พัทลุง (กงหรา ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ เขาชัยสน ตะโหมด ควนขนุน) จ.สงขลา (หาดใหญ่ สะบ้าย้อย จะนะ นาทวี รัตภูมิ สะเดา) จ.ปัตตานี (โคกโพธิ์ หนองจิก ปะนาเระ มายอ ทุ่งยางแดง สายบุรี ยะรัง) จ.นราธิวาส (บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง สุคิริน สุไหงปาดี จะแนะ เจาะไอร้อง) จ.ยะลา (เบตง ธารโต กาบัง บันนังสตา ยะหา รามัน กรงปินัง)
โดย ศปช. ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากดินถล่ม หากต้องการความช่วยเหลือโทรสายด่วนได้ที่ 1567 ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนที่ อ.ธารโต ยะลา มีปริมาณฝนตกมากถึง 194 มม. และเป็นฝนที่ตกเหนือเขื่อนบางลาง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนบางลางเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อปัญหาน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่
ทั้งนี้ นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเชิญชวนประชาชนจิตอาสาประชาชน ร่วมบรรจุถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 5,250 ชุด ร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ระหว่างวันที่ 21 และ 22 ต.ค.2567 เวลา 8.00 น. ถึง 17.30 น. ณ กรมทหารราบที่ 11 เขตบางเขนกรุงเทพฯ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่แอปพลิเคชัน “อาสาสมัครกาชาด”.-314.-สำนักข่าวไทย