TNA News-Now-next: ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 เกมนี้มีพลิก

วอชิงตัน 23 ก.ค.- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024 รูดม่านเปิดเวทีเมื่อต้นปี แบบที่ผู้สนใจการเมืองสหรัฐติดตามอย่างไม่มีลุ้นเท่าใดนัก เพราะตัวเต็งคู่แข่ง คือ คู่ปรับหน้าเดิม ระหว่างโจ ไบเดน ค่ายสีน้ำเงินจากพรรคเดโมแครต กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ค่ายสีแดงจากพรรครีพับลิกัน แต่หลังจากผ่านพ้นไปครึ่งปี ใครจะคิดว่า เกมพลิก เกิดปัจจัยไม่คาดคิด เขย่าการแข่งขันให้สั่นไหวเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกติดต่อกันหลายระลอก


ศึกนัดล้างตาของ 2 ผู้เฒ่า

ศึกครั้งนี้จะเป็นศึกนัดล้างตาของไบเดน วัย 81 ปี กับทรัมป์ วัย 78 ปี หลังจากที่ทรัมป์พ่ายแพ้ให้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 โดยที่เจ้าตัวยังคงไม่ยอมรับชัยชนะของไบเดน และยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ตนเองถูกโกงคะแนน ปีนี้ทั้งคู่เดินหน้าเก็บชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อเป็นตัวแทนพรรคตามรัฐต่าง ๆ ที่ทั้ง 2 พรรคเริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม และเสร็จสิ้นลงในต้นเดือนมิถุนายน เป็นที่คาดหมายว่า ต่างฝ่ายต่างจะได้เป็นตัวแทนพรรคสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้


ไบเดนและทรัมป์หยิบยกจุดอ่อนของอีกฝ่ายมาโจมตีกันตลอดการหาเสียง ไบเดนสูงวัยกว่าทรัมป์ แต่ดูมีภาษีดีกว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดี ดัชนีตลาดหุ้นทำนิวไฮครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ทรัมป์มีคดีอาญาติดตัวมากถึง 4 คดี และคดีแพ่งอีกเป็นกะตั๊ก หลายฝ่ายเชื่อว่า การตัดสินคดีทั้งหมดน่าจะไม่แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง และผลคดีไม่น่าจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของกลุ่มคนรักทรัมป์ได้

วันที่ 30 พฤษภาคม  ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญาข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจทั้งหมด 34 กระทง กรณีให้ทนายจ่ายเงินปิดปากสตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหนังผู้ใหญ่ ไม่ให้เปิดโปงช่วงก่อนเลือกตั้งปี 2016 ว่า มีสัมพันธ์สวาทกับเขา จากนั้นทรัมป์เมื่อได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้ทยอยคืนเงินในรูปของค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย จึงถือว่ากระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และผลของการกระทำเป็นการให้คุณให้โทษในการเลือกตั้งโดยอัยการตั้งสำนวนว่า ทรัมป์บิดเบือนจนมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

 คำตัดสินในคดีแรกนี้ทำให้ทรัมป์เป็นฝ่ายเสียรังวัดให้แก่ไบเดน ก่อนที่ทั้งคู่จะโคจรมาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ที่จัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เมื่อค่ำวันที่ 27 มิถุนายน


เกมพลิกครั้งแรก

เกมพลิกครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อไบเดนแสดงความชราภาพออกมาอย่างชัดเจน ท่าทางตะกุกตะกัก อาการหลงลืม และน้ำเสียงแหบพร่า ผลโพลล์ของซีเอ็นเอ็นหลังจบดีเบตให้ทรัมป์ชนะไบเดน 67 ต่อ 33 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าเนื้อหาของทรัมป์จะถูกตรวจสอบในภายหลังว่า ไม่จริงหลายประเด็น

ไบเดนตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ถูกกดดันจากคนในพรรคเดโมแครตให้พิจารณาถอนตัว เพื่อเปิดทางให้คนอื่นในพรรคขึ้นมาสู้กับทรัมป์แทน กระแสกดดันหนักขึ้นเมื่อเขาปล่อยไก่บนเวทีสุดยอดนาโตที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ ขณะจะส่งเวทีต่อให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน แต่กลับพูดว่าประธานาธิบดีปูติน ซึ่งเป็นผู้นำรัสเซียที่ยกทัพไปบุกยูเครน ไบเดนแก้เกี้ยวว่า มุ่งมั่นที่จะปราบปูตินมากเกินไป เลยทำให้พูดผิด แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ไบเดนก็ทำผิดซ้ำอีกในระหว่างการแถลงข่าว ด้วยการเรียกชื่อรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดีทรัมป์

ด้านทรัมป์เริ่มมีข่าวดีทางคดีความ เมื่อศาลฎีกามีคำชี้ขาดในวันที่ 1 กรกฎาคมว่า ทรัมป์ไม่สามารถถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากสิ่งที่กระทำภายใต้อำนาจรัฐธรรมนูญในขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คำวินิจฉัยของศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดเช่นนี้เท่ากับว่าเป็นการกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่ไม่ยอมรับคำอุทธรณ์ของทรัมป์ที่ยกสิทธิความคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในข้อหาอาญา กรณีพยายามล้มผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่ตนพ่ายแพ้ให้แก่ไบเดน

เกมพลิกครั้งที่ 2

เกมพลิกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นพร้อมกับความตกใจของคนทั้งโลก เมื่อมีคนพยายามลอบสังหารทรัมป์ขณะกำลังอยู่บนเวทีหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม คนร้ายสาดกระสุนหลายนัด ทรัมป์รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด ลูกกระสุนบางลูกเฉี่ยวถูกใบหน้า และนัดหนึ่งถูกหูขวาของเขา มีผู้ร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 2 คน

คนร้ายถูกพลแม่นปืนยิงวิสามัญทันที สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ผู้รับผิดชอบสืบสวนสอบสวน ยังดูมะงุมมะงาหรา จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้มูลเหตุจูงใจ ข้อมูลพื้นฐานไม่ชัดเจน แล้วยังตั้งธงว่า เข้าข่ายก่อการร้ายภายในประเทศ (Domestic Terrorism) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกฎหมายหลายคนติงว่า ไม่ตรงกับนิยามความผิดนัก สมควรจัดว่าเป็นการพยายามลอบสังหารมากกว่า ขณะที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีหรือซีเคร็ตเซอร์วิสที่มีหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญในสหรัฐ รับหน้าเสื่อไปเต็ม ๆ เพราะมีหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรง นาง คิมเบอรี ชีทตัน หน้าหน้าหน่วย ถูกเรียกตัวไปไต่สวนต่อหน้าคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ที่ล้วนประสานเสียงตั้งคำถามเรื่องการปฏิบัติงาน ทวงถามข้อมูล แต่ไม่ได้คำตอบหรือข้อมูลใหม่ใด ๆ เลยแม้จะผ่านเหตุการณ์มาเป็นสัปดาห์ จนทั้งสองพรรคร่วมเรียกร้อง “สมควรลาออก หรือ ต้องปลดออก” สถานเดียว

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทั้งทรัมป์และไบเดนหันมาพูดเรื่องเดียวกันเป็นครั้งแรก คือ การทำให้ประเทศรวมใจเป็นหนึ่ง ทั้งคู่ประณามการใช้ความรุนแรง ท่ามกลางสังคมอเมริกันที่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างสุดขั้ว

หลังจากนั้นเพียง 2 วัน ทรัมป์มีข่าวดีเรื่องคดีความอีกครั้ง เมื่อผู้พิพากษารัฐฟลอริดายกฟ้องทรัมป์ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเก็บเอกสารชั้นความลับในบ้านพักหลังจากพ้นตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่ฟ้องทรัมป์ในคดีนี้ได้รับการแต่งตั้งอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันได้เสนอชื่อทรัมป์เป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในการเปิดประชุมวันแรก เขาปรากฏตัวพร้อมกับผ้าปิดแผลที่หู ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของวีรบุรุษของพลพรรครีพับลิกัน

เกมพลิกครั้งที่ 3

ฟากไบเดนประสบภาวะพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ตรวจพบว่าติดโควิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ต้องไปกักตัวที่บ้านพักส่วนตัวในรัฐแดลาแวร์ และเป็นจุดเริ่มต้นของเกมพลิกครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เมื่อไบเดนประกาศยุติการหาเสียง ขอถอนตัวจากแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย และประกาศสนับสนุนรองประธานาธิบดีแฮร์ริส วัย 59 ปี เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งกับทรัมป์

แหล่งข่าวเผยว่า สาเหตุที่ไบเดนตัดสินใจถอนตัวอย่างกะทันหัน เป็นเพราะได้วิเคราะห์ข้อมูลจากคนสนิทระหว่างกักตัวเมื่อวันเสาร์ว่า มีคะแนนตามหลังทรัมป์ในรัฐสมรภูมิหรือสวิงสเตทสำคัญหลายรัฐ จึงได้ประกาศการตัดสินใจผ่านการเผยแพร่จดหมายถึงชาวอเมริกันทั้งประเทศ แต่จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไปจนครบวาระ ปิดฉากความหวังที่อาจจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2

ลุ้นกันตัวโก่งเหมือนกันสำหรับชาวเดโมแครต เมื่อต้องเปลี่ยนตัวขุนพลกลางศึก หากไพร่พลไม่ยอมรับขุนพล คนใหม่ หรือ แม่ทัพนายกองอื่นๆ ที่หวังนำทัพแตกแถว จะยิ่งทำให้พรรคเดโมแครตชะตาดับ ร่วงกราวรูดกันยิ่งไปอีก … แต่แล้ว ไม่ถึง 24 ชั่วโมง จากความอลหม่านอกสั่นของคนเดโมแครต สัญญาณแห่งความหวังปรากฎชัดว่า คอมมาลา แฮร์ริส นี่แหละคือขุนพลหญิงของพรรค ตั้งแต่ไบเดนประกาศรับรอง แกนนำพรรค คู่แข่งภายในพรรค และ ผู้สนับสนุนพรรค ต่างเรียงแถวออกมาส่งเสียงสนับสนุน ยอดเงินบริจาคยังบ่งชี้ได้ดีถึงกระแสพลิกกลับ จากที่เคยหยุดนิ่งไปนานเงินบริจาคพุ่งพรวดวันเดียว 81 ล้านดอลลาร์ สูงทำสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

Final Thoughts: จับตาจะมีเกมพลิกอีกหรือไม่

ณ เวลานี้ แม้จะชัดเจน แต่ก็ยังแฝงความไม่ชัดเจนอยู่ เพราะแม้ว่านางแฮร์ริส จะมาแรง แต่ต้องรอว่า ตัวแทนพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทางการที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับทรัมป์เป็นใคร ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือน ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน เพราะต้องรอพรรคเดโมแครตจะเสนอชื่อผู้สมัครที่เป็นตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์วันที่ 19-22 สิงหาคม สมาชิกคนสำคัญของพรรค รวมทั้งประธานพรรคระดับรัฐทั้ง 50 รัฐได้ประกาศตัวสนับสนุนแฮร์ริสแล้ว ขณะที่เธอและทีมงานเริ่มเดินหน้าขอเสียงสนับสนุนภายในพรรค งานนี้พรรคเดโมแครตจะใช้กลยุทธ์ใดที่จะทำให้ตัวแทนพรรคสามารถสู้กับทรัมป์ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องเวลาที่กระชั้นชิด ส่วนฝ่ายทรัมป์ ก็ใช่ว่าจะได้เปรียบฝ่ายเดียว เขาก็ต้องปรับกลยุทธ์ จากที่เคยโจมตีไบเดนเรื่องชราภาพและความเฉื่อยชา ก็ไม่สามารถใช้อาวุธนี้ได้อีกกับแฮร์ริสที่สดกว่า อายุน้อยกว่า เกือบ 20 ปี ขณะที่เขาเองต่างหากที่ต้องกลายเป็นคู่ชิงทำเนียบขาวที่อายุสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ จากนี้ไปจะมีเกมพลิกจากปัจจัยที่ไม่คาดคิดขึ้นอีกหรือไม่ คงต้องจับตากันให้ดีสำหรับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024.-814(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]