กัวลาลัมเปอร์ 3 ก.พ.- นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซักของมาเลเซียไปส่งเรือที่จะนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้แก่ชาวโรฮิงญาในเมียนมาร์ ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ปฏิบัติการของกองทัพเมียนมาร์น่าจะทำให้มีพลเรือนในรัฐยะไข่ล้มตายหลายร้อยคน
นายกรัฐมนตรีนาจิบกล่าวขณะส่งเรือที่จะล่องออกจากท่าเรือในกรุงกัวลาลัมเปอร์วันนี้ว่า เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ เรือบรรเทาทุกข์ไปเมียนมาร์ลำนี้เป็นความพยายามอันสูงส่งที่แสดงให้เห็นว่าความเจ็บปวดทั้งหมดของชาวโรฮิงญาในเมียนมาร์จะไม่ถูกเพิกเฉย ด้านกลุ่มมุสลิม กลุ่มบรรเทาทุกข์ทั้งในและต่างประเทศที่ร่วมกันจัดสิ่งของบรรเทาทุกข์น้ำหนักรวม 500 ตันลงเรือลำนี้คาดว่า เรือจะถึงท่าเรือนครย่างกุ้งของเมียนมาร์ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เพื่อนำสิ่งของทั้งหมดขึ้นฝั่งแล้วใช้เวลา 3 วันเดินทางไปยังท่าเรือเต็กนาฟในบังกลาเทศ เนื่องจากทางการเมียนมาร์ไม่อนุญาตให้เรือไปขึ้นฝั่งที่เมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ทางการเมียนมาร์ยังกำชับให้จัดสรรสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ชุมชนชาวพุทธและชาวมุสลิมในรัฐยะไข่อย่างเท่าเทียมกันด้วย
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCR) ออกรายงานว่า จากการพูดคุยกับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา 204 คนที่หนีเข้าไปในบังกลาเทศทำให้ประเมินได้ว่า ปฏิบัติการของกองทัพเมียนมาร์ในรัฐยะไข่ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมจนถึงขณะนี้น่าจะทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วหลายร้อยคน เจ้าชายเซอิด บิน ราอัด เซอิด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเรียกร้องรัฐบาลเมียนมาร์ให้หยุดยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อพลเรือนของตนเองทันที แทนการยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย