ลอนดอน 15 ก.ค. – อังกฤษจะกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะทุกแห่ง หลังจากเมื่อวานนี้รัฐบาลเพิ่งกำหนดให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในร้านค้าตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม เป็นต้นไป
ทางการอังกฤษได้เริ่มเจรจากับกลุ่มตัวแทนนายจ้างรายใหญ่ไปบ้างแล้ว ในขณะที่รัฐบาลกำลังเตรียมแนวทางเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดระลอกสองของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยคาดว่า นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน จะจัดทำแนวทางสำหรับกลยุทธ์ในระยะยาวได้ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดที่ว่าประเทศจะกลับมาทำงานอย่างไร โดยไม่เสี่ยงต่อการระบาดระลอกสอง
ที่ผ่านมาบางประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนี สเปน และอิตาลี ได้เริ่มบังคับให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในร้านค้ามาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่ นายกรัฐมนตรี จอห์นสัน เพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อาจจำเป็นต้องใช้กฎที่เข้มงวดขึ้นเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยจนพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้วิจารณ์รัฐบาลของจอห์นสันว่า ทำไมจึงไม่เคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวให้เร็วกว่านี้
คำสั่งให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยในร้านค้ากำหนดโทษปรับไว้ 100 ปอนด์ หรือประมาณ 3,900 บาท ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับค่าปรับ หากไม่สวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะ อย่างไรก็ตาม หากจ่ายค่าปรับภายใน 14 วัน ก็จะลดค่าปรับลงเหลือ 50 ปอนด์ หรือประมาณ 1,950 บาท.- สำนักข่าวไทย