ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐ ชี้ผลทดลองเรมเดซิเวียร์ สำคัญมากต่อการรักษาโควิด-19

วอชิงตัน 30 เม.ย.-ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของสหรัฐเผยว่า หน่วยงานรัฐบาลได้ทดลองทางคลินิกกับยาเรมเดซิเวียร์ได้ผลเบื้องต้นที่มีความสำคัญมากต่อการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพราะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น 


ดร.แอนโธนี เฟาชี ผู้อำนวยสถาบันภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ สังกัดสถาบันสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นไอเอช (NIH) แถลงที่ทำเนียบขาววานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า เอ็นไอเอชได้ทดลองทางคลินิก ผลเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาเรมเดซิเวียร์ฟื้นตัวเร็วกว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอกร้อยละ 31 ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เหมือนกับช่วงปี 2529 ที่โลกพยายามหายารักษาเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่ทำให้เป็นโรคเอดส์และไม่พบอะไรเลยในเวลานั้น ยาเรมเดซิเวียร์จะเป็นมาตรฐานในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ต่อไป เอ็นไอเอชเผยผลการทดลองบางส่วนกับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1,063 คนว่า ผู้ป่วยที่ได้รับเรมเดซิเวียร์ฟื้นตัวใน 11 วัน เทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอกฟื้นตัวใน 15 วัน หรือเร็วขึ้นร้อยละ 31 ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของกลุ่มแรกอยู่ที่ร้อยละ 8 กลุ่มหลังอยู่ที่ร้อยละ 11.6 สัดส่วนไม่ต่างกันมากนักจึงอาจไม่ใช่ผลจากยา คณะนักวิจัยคาดว่าจะทราบผลการทดลองอย่างสมบูรณ์ภายในกลางเดือนพฤษภาคม

สำนักงานอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) เผยว่า กำลังคุยกับบริษัทกิเลียดไซเอินซ์เรื่องผลิตยาเรมเดซิเวียร์ให้ผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ให้ความเห็นว่าจะอนุมัติทางกฎระเบียบที่จะเปิดทางให้สามารถจำหน่ายเชิงพาณิชย์หรือไม่ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตอบข้อถามเรื่องต้องการให้เอฟดีเออนุญาตให้ใช้ยาขนานนี้เป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ว่า อยากให้อนุญาตโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะสิ่งที่ได้ผล แต่ก็อยากให้ทุกอย่างปลอดภัย กิเลียดไซเอินซ์เคยเผยเมื่อต้นเดือนว่า พร้อมบริจาคเรมเดซิเวียร์ที่มีอยู่ 1.5 ล้านชุดให้แก่โรงพยาบาล เพียงพอสำหรับผู้ป่วยกว่า 140,000 คน 


ผู้เชี่ยวชาญบางคนในสหรัฐติงว่า ควรเปรียบเทียบผลการศึกษาของเอ็นไอเอชกับที่อื่น ๆ เพราะได้ผลไม่ตรงกัน วารสารแลนเซ็ตเผยแพร่ผลการทดลองในจีนเมื่อวันพุธที่สรุปว่า ยาเรมเดซิเวียร์ไม่ช่วยให้ผู้ป่วยโควิด-19 อาการดีขึ้นหรือลดจำนวนไวรัสในกระแสเลือด กิเลียดไซเอินซ์แย้งว่า ผลการทดลองไม่สมบูรณ์เพราะยุติก่อนเวลา อนึ่ง เรมเดซิเวียร์เคยใช้ทดลองรักษาไวรัสอีโบลาที่ระบาดในแอฟริกาตะวันตกมาแล้วแต่ไม่ได้ผล.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ