กทม. 16 เม.ย.-นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง ออกมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ซึ่งจากคลิปที่เผยแพร่ออกมา เห็นว่าอาคารที่ใช้เวลาเพียง 8 วินาทีเท่านั้น ก็พังถล่มแบบราบคาบ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งข้อสังเกตไปที่ “ปล่องลิฟต์” ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของตึก แต่กลับอยู่ชิดขอบอาคาร ทำให้อาคารบิดตัว
ศ.กิตติคุณ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ราชบัณฑิตวิศวกรโครงสร้างชาวไทย ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และศาสตราจารย์กิตติคุณของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เปิดเผยผ่านช่องยูทูปของอาจารย์ วิเคราะห์การถล่มของอาคาร สตง. ที่ใช้เวลาถล่มเพียง 8 วินาทีเท่านั้น ว่า การถล่มของตึก สตง. เป็นแบบ “pancake collapse” หรือถล่มแบบขนมชั้น อาคารสูงทั่วไปที่ได้รับการออกแบบอย่างถูกต้อง และใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานตามแบบโอกาสพังทลายเป็นไปได้ยากมาก

หลังเกิดเหตุได้ตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นว่า ในซากตึกทำไมไม่เห็นรูปทรงของปล่องลิฟต์ โดยเปรียบเสมือนเป็นกระดูกสันหลังของอาคาร และทำไมซากคอนกรีตที่เห็นรู้สึกเหมือนว่าไม่เกาะติดกับเหล็ก ทั้งนี้หากอาคารสูง 30 ชั้น พังทลายภายในเวลา 8 วินาที จะต้องทำให้โครงสร้าง คือเสาและกำแพงรับแรงวิบัติพร้อมกันในเสี้ยววินาที
ส่วนแบบที่ 2 คือพื้นชั้นบนหลุดออกจากเสาและกำแพง จะทำให้พื้นชั้นบนตกลงมากระแทกกับพื้นชั้นถัดลงมา เกิดการพังเหมือนโดมิโน สุดท้ายก็เกิดการถล่มเป็นชั้นๆ เช่นเดียวกัน

จุดที่น่าสังเกตคือ “ปล่องลิฟต์” ไม่ได้เป็นศูนย์กลางของอาคาร แต่ไปชิดอยู่ขอบของอาคาร จึงให้อาคารเกิดการบิดตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อดูในคลิปตอนตึกถล่ม จะเห็นเสาชั้นล่างสุดพังถล่มแบบบิดตัวและชั้นบนถล่มลงมาพร้อมกันโดยไม่มีการกระแทกกัน และสามารถอธิบายภาพที่เห็นหลังตึกถล่มว่า เหล็กเส้นแทบจะแยกตัวออกจากคอนกรีตทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย