รองผู้ว่าฯ สตง. หอบเอกสารแจงยิบเหตุตึก สตง.ถล่ม

รัฐสภา 7 พ.ค.-รองผู้ว่าฯ สตง. หอบเอกสารแจงยิบเหตุตึก สตง.ถล่ม พบแก้แบบก่อสร้าง 9 ครั้ง ทั้งปล่องลิฟต์-โครงสร้าง-การก่ออิฐ ก่อนขยายเวลางานเพิ่ม พิรุธ อิตาเลียน ไทย-ไชน่า เรลเวย์ฯ ยื่นซื้อเอกสารประกวดราคา ก่อนยุบรวมเป็นกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ประมูลงานก่อสร้าง

ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรุงเทพมหานคร เข้าชี้แจงสรุปสาเหตุที่ตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 โดยนายสุทธิพงศ์ บุญนิล รองผู้ว่าฯ สตง. มาชี้แจงแทนผู้ว่าฯ สตง. ที่ติดภารกิจ โดยได้นำข้อมูลการก่อสร้างตึก สตง. ทั้ง 8 ขั้นตอนมาชี้แจง ประกอบด้วย


1.การเลือกพื้นที่ ซึ่งเปลี่ยนจากสถานที่เก่า ปทุมธานีที่อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มาที่ถนนกำแพงเพชร2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟ เนื่องจากพื้นที่เดิมเกิดน้ำท่วม

2.แนวการออกแบบ ยึดเอกลักษณ์ความเป็นไทย อัตลักษณ์ขององค์กร โครงสร้างทางวิศวกรรมเพื่อรองรับแรงแผ่นดินไหว รวมถึงเหมาะสมกับสภาพพูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรในอนาคต


3.สาเหตุการถล่มของอาคาร เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 เกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณประเทศเมียนมาร์ ขนาด 8.2 ริกเตอร์ ทำให้รู้สึกสั่นไว้ได้เป็นบริเวณกว้างในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นเหตุให้อาคาร สตง. ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม ส่วนสาเหตุที่ทำอาคาร สตง.ถล่มอันเกิดจากแผ่นดินไหวนั้นอยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง

4.ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นการจ้างออกแบบของกลุ่มค้า โดยวิธีการคัดเลือก จากการให้คะแนนของคณะกรรมการดำเนินการออกแบบ วงเงินจ้าง 73 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 61 สตง. มีหนังสือถึงนายกสภาสถาปนิก และนายกสภาวิศวกร เพื่อขอความอนุเคราะห์รายชื่อนิติบุคคลผู้มีผลงานออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานเพื่อใช้ประกอบการดำเนินการคัดเลือกผู้ออกแบบ จากนั้นวันที่ 15 มิ.ย. 61 คณะกรรมการดำเนินการจ้างออกแบบได้ส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 24 ราย โดยคัดเลือกรายชื่อบริษัทจากผลงานการออกแบบอาคารสำนักงาน อาคารมูลค่า 750 ล้านบาทขึ้นไป ต่อมาวันที่ 16 ก.ค. 61 มีผู้ให้บริการมายยื่นข้อเสนอจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บริษัทร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท สแปน คอนซัลแดตนท์ จำกัด และกลุ่มร่วมค้า บริษัท ดีไซน์+ดีเวลลอป จำกัด และ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำหัด มหาชน โดยบริษัทที่ได้คะแนนสูงสุดถึง 91.12 คะแนน คือ บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างสำหรับวิธีการจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างอาคารใช้วิธี E-bidding โดยมีราคากลางอยู่ที่ 2,522,153,000 บาท โดยมีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคาจำนวน 16 ราย โดยปรากฏชื่อบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาจำนวน 7 ราย ในนามซึ่งมีการยื่นประมูลของสองบริษัทในนาม กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และเป็นผู้ชนะประมูลโครงการดังกล่าวในวงเงิน 2,136 ล้านบาท โดยมีการลงนามในสัญญาจ้างวันที่ 23 พ.ย. 2563 โดยมีระยะในสัญญา 1,080 วันตกลงจ่ายค่าจ้าง 36 งวด การแก้ไขเพิ่มเติมและในรายละเอียดสัญญาจ้างก่อสร้างมีการแก้ไขเพิ่มเติม 9 ครั้ง ซึ่งเป็นการแก้ไขแบบการก่อสร้าง อาทิ การแก้ไข CORE LIFT อาคาร A, แบบบันได อาคาร B , CORE WALL อาคาร A ในครั้งที่ 4 และปรากฎการแก้ไข Core Wall อาคาร A อีกในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 และในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 8 ผู้รับพบว่าผู้รับจ้างแจ้งความประสงค์ขอปรับแก้ไขงวดงานก่อสร้าง เนื่องจากรายการงานในงวดงานที่ระบุไว้ในสัญญามีหลายรายการที่ไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการปฎิบัติงานที่ควรจะเป็น จำเป็นต้องปรับแก้ไขรายการงานที่ติดขัดกับขั้นตอนการทำงานจำนวน 18 รายการ ในงวดที่ 20 – 35 ประกอบด้วย งานโครงสร้าง , งานก่ออิฐ , งานผิวผนัง , งานฝ้าเพดาน , งานพื้นและงานผิวพื้น , งานฝังยึดราวบันได , งานสำเร็จบันได , งานประตูหน้าต่าง , งานสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ , งานบัวเชิงผนัง , งานสถาปัตยกรรมห้องเครื่อง , งานหลังคา , งานเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ , งาน Curtain Wall , การตกแต่งภายใน , งานป้ายสัญลักษณ์ , งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และงานภูมิสถาปัตยกรรมและงานภายนอก สำหรับการแก้ไขสัญญาครั้งที่เก้านั้นเป็นการปรับแผนการทำงานใหม่โดยนำระยะเวลาการทำงานจำนวน 1,080 วันมานับต่อจากวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามแผนการทำงานใหม่


ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้าง งานจ้างควบคุมงาน จะใช้วิธีการคัดเลือก วงเงิน 76,800,000 บาท โดยการตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างควบคุมงาน หนังสือและส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 19 ราย มีผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 5 ราย นิติบุคคลซึ่งกลุ่มนิติบุคคลร่วมค้า PKW เป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากคะแนนสูงสุด ได้รับวงเงินค่าจ้างเป็นเงิน 74,653,200 บาท

5.การตรวจรับพัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง

6.ใบอนุญาตแผนผังบริเวณโครงการ ซึ่ง สตง. ได้มีหนังสือแจ้งและส่งแผนผัง แบบแปลน รายการประกอบแบบและรายชื่อผู้ควบคุมงานให้กับทางกรุงเทพกรุงเทพมหานคร ซึ่งทางกรุงเทพฯ 256 ได้มีหนังสือตอบกลับในวันที่ 12 เม.ย. 2566 ว่า จากการพิจารณาเห็นว่าไม่ขัดต่อกฎกระทรวงกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร 2522 แต่อย่างใด

7.รายงานผลทดสอบคอนกรีต ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างได้ขออนุมัติวัสดุคอนกรีตผสมเสร็จผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ทีพีโอ คอนกรีต จำกัด ใช้สำหรับฐานรากและเสาเข็ม ซึ่งมีวิศวกรโยธาระดับสามัญลงลายมือชื่อรับรองรายการคำนวณส่วนผสมคอนกรีต พร้อมทั้งส่งตัวอย่างไปทดสอบที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และกรมวิทยาศาสตร์ บริการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการทดสอบคุณภาพวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้างตามสัญญา

8.รายงานการควบคุมงานของผู้ควบคุมงาน ซึ่งจะมีการรายงานข้อมูลที่สามารถแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติหรือการแสดงสิ่งที่ผู้ให้บริการ ผู้ควบคุมงานได้ดำเนินการในแต่ละเดือนพร้อมหลักฐานและภาพประกอบ.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เกาะติดปฏิบัติการ EOD ทำลายวัตถุต้องสงสัย หาดป่าตอง

ภูเก็ต 26 มิ.ย. – ภูเก็ตป่วนอีก! พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ที่หาดป่าตอง ตำรวจชุด EOD ยิงทำลายสำเร็จ หลังเมื่อวานทำลาย จยย. ซุกวัตถุระเบิด จอดทิ้งหน้าสนามบิน ตำรวจชุด EOD ได้ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่ผู้ไม่หวังดีนำมาซุกซ่อนเอาไว้บริเวณหาดป่าตอง เรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยตำรวจได้กันพื้นที่ในจุดที่พบวัตถุต้องสงสัย ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ทำให้พื้นที่รอบนอกรัศมีออกมา 300-400 เมตร นักท่องเที่ยวยังคงใช้ชีวิตปกติ และไม่ได้ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว มีลักษณะเป็นการตั้งตัวหน่วงเวลาแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นระเบิดชนิดใด ต้องรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บวัตถุพยานต่างๆ เพิ่มเติม โดยก่อนจะยิงทำลาย เจ้าหน้าที่ได้ยิงสกัดสัญญาณก่อน 2 ครั้ง และขณะยิงทำลาย ผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ห่างออกมา 200 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น โดยช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจชุด EOD ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต และยิงทำลายวัตถุระเบิดได้สำเร็จ พลตำรวจตรีสินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการยกระดับความเข้มการตรวจสอบพื้นที่ทั่วเกาะ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่พบวัตถุระเบิดทั้ง 2 จุด ในภูเก็ต เชื่อมโยงกับการจับกุม […]

มทภ.2 ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน

กองทัพภาคที่สอง 26 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 2 แก้เคล็ด ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย นำความผาสุกสู่ประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธานไปถวายวัดในจังหวัดนั้นๆ จังหวัดละ 1 องค์ พล.ท.บุญสิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง นอกจากไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแล้ว ยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคนทางภาคอีสานชอบเข้าวัดทำบุญ ตนจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งควรที่จะทำบุญที่วัด โดยการถวายพระองค์ใหญ่หรือพระประธานให้แก่วัด “เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ เป็นการทำบุญ ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากมาย แก่ชีวิตของทุกๆ ท่าน อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปจากประเทศเรา และนำพาความสุขความเจริญกลับมาสู่ประเทศเรา เป็นการแก้เคล็ด หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว สำหรับวัดที่ได้นำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จำนวน 20 วัด โดยเริ่มถวายมาตั้งแต่วันที่ […]

ผ่อนผันให้ชาวเขมร ผ่านด่านคลองลึกเข้าไทย ไม่เกิน 1 พันคน/วัน

สระแก้ว 26 มิ.ย.-มนุษยธรรม! ทภ.1 ยอมผ่อนผันให้ชาวเขมร เดินทางผ่านด่านคลองลึกเข้ามาในประเทศไทยได้วันละไม่เกิน 1 พันคน แต่กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านดังเดิม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องให้ประชาชนชาวไทยและกัมพูชา เดินทางข้ามแดนและเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเป็นการดูแลในเรื่องของมนุษยธรรม ให้กับพี่น้องประชาชน ระบุว่า เพื่อเป็นการอนุโลมให้กับประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชา ที่ต้องการเดินทาง กลับภูมิลำเนา ผ่านจุดผ่านแดนในพื้นพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และเป็นไปตามด้านมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา จึงกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก1.1ประชาชนกัมพูชา ที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยใช้หนังสือผ่านแดน Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจย เท่านั้น (ไม่อนุญาตให้ใช้หนังสือเดินทาง Passport ในการผ่านแดน) และไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะ ตั้งแต่รถจักรยานยนต์ฯ และรถยนต์ส่วนบุคคลฯ ทุกชนิด เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย (ยกเว้นรถจักรยาน 2 ล้อ) และให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ลงตราประทับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ ไม่เกิน 1 วัน ตามห้วงเวลา ดังนี้1.1.1 เวลา 08.00 […]

นายกฯ ลงพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ

สระแก้ว 26 มิ.ย.-นายกฯ นำคณะลงพื้นที่สระแก้ว หารือผลกระทบจากมาตรการเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นจะไปด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตรงข้ามปอยเปต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยจุดแรกที่เดินทางมาถึงคือโรงเรียนอรัญประเทศ เพื่อเป็นประธานในการประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากมาตรการการกำหนดเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ทั้งการค้าขายและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางต่อไปยังบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตรงข้ามเมืองปอยเปตของกัมพูชา เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชน ผู้ประกอบการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย