ตร.ส่งสำนวนคดีตึก สตง.ถล่มให้อัยการ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ตำรวจส่งสำนวนคดีแผ่นดินไหว เป็นเหตุให้ตึก สตง.ระหว่างก่อสร้างถล่มทับคนงานเสียชีวิตจำนวนมากให้อัยการพิจารณา พร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา


พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ นำสำนวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม จำนวน 51 กล่อง 233 แฟ้ม 98,926 แผ่น ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหา ทั้งนิติบุคคล และบุคคล รวม 23 ราย ในจำนวนนั้นมี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง

โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ และ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มายื่นสำนวนด้วยตนเอง


หลังจากขึ้นไปพูดคุยกันนานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.สมควร, พล.ต.ต.นพศิลป์, นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังส่งสำนวนคดี โดย พล.ต.ต.สมควร เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการสอบสวนคดีตึก สตง.ถล่มเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งได้ส่งสำนวนการสอบสวนมาทั้งหมด 233 แฟ้ม 51 ลัง เป็นจำนวน 90,000 กว่าแผ่นให้กับพนักงานอัยการ เพื่อคณะทำงานศึกษา และรับสำนวนการสืบสวนของเรา โดยในการสืบสวนเรามีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 7 บริษัท 18 ราย รวมทั้งหมด 23 ราย

ส่วนการแยกกลุ่มผู้ต้องหาตามความผิดนั้น ประกอบด้วย “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารปลอม” ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องทุกราย และทุกข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้งหมดยังถูกฝากขัง และยังไม่ได้รับการประกันตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างฝากขังผัดที่ 6 จากทั้งหมด 7 ผัด

เมื่อถามว่า ในกรณีของเจ้าหน้าที่รัฐที่พบข้อมูลว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีตึก สตง.ที่ส่งสำนวนให้กับ ป.ป.ช. มีการตอบกลับมาหรือไม่ พล.ต.ต.สมควร ระบุว่า เรื่องนี้มีคนมาร้องทุกข์เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. และเราได้มีการส่งสำนวนไปในห้วงเวลา 30 วันแล้ว หลังจากนี้จะต้องไปขยายผลเพิ่ม ในส่วนที่มีผู้มาร้องว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นประเด็นเดียวกันหรือไม่ เพื่อจะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับ ป.ป.ช.ทีหลัง และมีการมอบหมายให้เกี่ยวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งทาง ป.ป.ช. ได้รับสำนวนไว้แต่ยังไม่ได้ตอบกลับอะไรกลับมา


ผู้สื่อข่าวถามว่าอัยการจะพิจารณาสำนวนทันหรือไม่ก่อนครบฝากขังในผัดที่ 7 นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ยืนยันว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องทำให้ทัน เพื่อจะต้องสั่งทางคดีอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเรามีคณะทำงานในเรื่องนี้ แม้สำนวนในคดีจะมีเอกสารค่อนข้างเยอะแต่เราก็จะทำโดยละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเราจะต้องทำให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีการตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลหรือไม่ นายสัญจัย ระบุว่า คดีนี้เกิดขึ้นในท้องที่ สน.บางซื่อ เป็นความรับผิดชอบของสำนักงานอัยการกองคดีอาญา 8 และอาจจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกขั้นตอนนึง เมื่อถามว่าจะต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาช่วยดูแล และพิจารณาสำนวนในคดีนี้หรือไม่ นายสัญจัย ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่ต้องแต่ถ้าหากตรงไหนมีความขัดข้องก็จะประสานกับตำรวจเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรกันหรือไม่เพื่อให้คดีรวดเร็วขึ้น นายสัญจัย ระบุว่าพึ่งพูดคุยกันในวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีการสั่งสอบพยานเพิ่มเติมหรือไม่ นายสัญจัย ระบุว่า ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเพิ่งรับสำนวนคดีมา และเพิ่งมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อยจะต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้งว่าอะไรขาดตกบกพร่องตรงไหน

ส่วนคดีนี้หากฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามีการร้องขอความเป็นธรรม จะมีการรับพิจารณาและพิจารณาสำนวนได้ทันในกรอบฝากขังก่อนหรือไม่ นายสัญจัย ระบุว่า หากมีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก็จะต้องรับมาพิจารณาอยู่แล้ว เพราะเป็นไปตามกฎระเบียบ ส่วนข้อร้องขอความเป็นธรรมจะต้องไปดูว่าเป็นประเด็นที่ตำรวจสอบสวนไปแล้วหรือไม่ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา เพราะเพิ่งรับสำนวน ส่วนในชั้นพนักงานสอบสวนของตำรวจ ก็ยังไม่มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาเช่นกัน

ส่วนกรณีที่นายดำรง พุฒตาล และนางนารากร ติยายน แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. คนปัจจุบัน และนายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าการ สตง.นั้น ในข้อหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจำนวนมาก และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” นั้น คณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว  ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ต่อไปแล้ว. -412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]