“ปลอดประสพ” บอกผู้ว่าฯ สตง. ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้

รัฐสภา 7 พ.ค.- “ปลอดประสพ” บอก ผู้ว่าฯ สตง. ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ หลังเบี้ยวแจง กมธ.วิสามัญ สรุปสาเหตุอาคาร สตง.ถล่ม เกือบไล่ตัวแทนกลับ แต่คนเตือนแก่แล้วต้องใจเย็น ย้อนถามถ้าเป็นหน่วยงานอื่นเจอแบบนี้ จะแนะนำอย่างไร

นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญ กรุงเทพมหานคร กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. มาสรุปสาเหตุ อาคาร สตง.แห่งใหม่ ถล่ม ซึ่งผู้ว่าฯ สตง. ไม่ได้มาให้ข้อมูลด้วยตัวเอง และมอบหมายให้ นายสุทธิพงษ์ บุญนิล รองผู้ว่าฯ สตง. มาให้ข้อมูลแทน


นายปลอดประสพ กล่าวว่าในฐานะที่ตน เป็นอดีตข้าราชการประจำ เข้าใจความรู้สึกของท่านดี เพราะชีวิตตน ก็เคยผ่านเรื่องที่คล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน กรณีเรื่องป่าสาละวิน กรมป่าไม้ในขณะนั้น เดินไปไหน คนด่าทั้งประเทศ ว่าร่วมกันโกง เอาไม้มาสวมโสร่ง ตนต้องใช้เวลา 5 ปี ถึงกลับมาเป็นปลัดกระทรวง วันนี้ท่านทราบดีว่าตึกถล่มลงมา มีคนตายร้อยกว่าคน งบประมาณจะสาปสูญไปหรือไม่ก็ไม่รู้ บริษัทประกันจะยอมหรือไม่ เพราะเป็นพิบัติภัย ท่านก็ต้องมารับเคราะห์

นายปลอดประสพ ระบุต่อไปว่า ผู้แทน สตง.ที่มานั่งอยู่ที่นี้ ตนคิดว่าหลายท่าน ไม่เกี่ยวข้องเลย เพราะท่านยังไม่ได้เป็นอะไรตอนนั้น ยังไม่ต้องรับผิดชอบ มี นายกฤษฎา สวนสมภาค อดีตรองผู้ว่าฯ สตง. คนเดียวที่เกี่ยวข้อง แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว เราก็ต้องช่วยกัน ช่วยไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีก ตึกนี้ ต้องใช้เงินก่อสร้าง 2,000 กว่าล้านบาท สร้างขึ้นมาโครงสร้างเสร็จแล้ว ถล่มภายใน 8 วินาที


นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนจึงอยากขอร้องท่าน ให้ช่วยสนับสนุนการทำงานของ กมธ.ฯชุดนี้ จะสร้างมิติใหม่ให้กับประเทศไทย เราอย่ามาปฏิเสธว่ามันไม่มีอะไร แต่มันมีอะไรแน่นอน เราไม่อาจจะยกระเบียบอะไรมาอ้าง ว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบ 100% ถ้าเราปฏิบัติ 100% แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็แปลว่าระเบียบนั้นมันเฮงซวย มันใช้ไม่ได้ หรือไม่ก็คือ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มีอะไรซ่อนอยู่แน่นอน ยืนยัน กมธ.ชุดนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีใดๆ ทั้งสิ้น แต่ กมธ.ชุดนี้ จะปฏิวัติ ปฏิรูป และเปลี่ยนแปลง ระเบียบราชการทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับ พ.ร.บ. หรือ รองลงมา เพื่อให้แน่ใจว่าอาคาร ทั้งของราชการ และเอกชน ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จะต้องไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ตนจึงอยากของร้อง สตง. ได้กรุณา ช่วยเรา สร้างอาคารของประเทศไทย ใหม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับลูกหลานของเราในอนาคต วันนี้ขอให้ท่านสบายใจ ว่าในห้องนี้ ไม่มีใครที่คิดจะมารังแกท่าน ถามไถ่ท่านให้เสียเกียรติยศ ที่นี่ ไม่ใช่ที่จะมาดูถูกใคร แต่ท่านก็ต้องยอมรับความจริง ว่าเหตุการณ์มันเกิดที่ท่าน และคนที่รู้ดีที่สุดคือพวกท่าน ซึ่งการที่ ท่านผู้ว่าฯสตง.ไม่ได้มาด้วยตัวเอง ด้วยท่านติดอะไรก็ไม่แน่ใจ จริงเท็จตนก็ต้องเชื่อท่าน เพราะท่านพูดมาแล้ว

“ในความเห็นส่วนตัว มาตรฐานของผม เป็นลูกผู้ชายไม่พอ ผมขออนุญาตใช้ความเป็นคนอายุ 80 ปี เปรียบเทียบให้ฟัง ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ต้องลุกขึ้นยืน อย่างกล้าหาญ เล่าให้พวกเราฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะสิ่งนี้จะลบล้าง สิ่งที่ท่านได้รับการกล่าวหา และดูถูกดูแคลนของสังคม เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ลำบากเกินไปขอให้นำคำของผม ไปพูดเรียนต่อผู้ว่าสตง. และตนจะเชิญท่านกลับมาอีกแน่นอน อย่างไรก็ต้องเชิญมา กมธ.มีความประสงค์ ฟังคำอธิบาย จากปากผู้ว่าฯ สตง. พวกเราเคารพในตำแหน่ง รองผู้ว่าฯ สตง. ซึ่งที่จริงเราก็ทราบอยู่แล้ว ว่าท่านผู้ว่าฯ สตง. จะไม่มา จึงได้หารือกับ กมธ. หลายท่าน และจะเชิญท่านกลับไปด้วยซ้ำ แต่ตนถูกห้ามไว้ ว่าอายุมากแล้ว ไม่ควรใจร้อน จึงเชื่อทุกคนใน กมธ.” นายปลอดประสพ กล่าว

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนได้เตรียมคำถามไว้ 20 ข้อ และอยากฝากคำถามอีกข้อ กับท่าน คือข้อ 21 ให้กลับไปคิด และบอกกับ ผู้ว่าฯ สตง. ให้มาตอบคำถามนี้กับตน และ กมธ. ว่าในฐานะที่ท่านเป็น สตง. ตรวจงาน และให้คำแนะนำจำนวนมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเกิดกับหน่วยงานอื่น ท่านจะให้คำแนะนำกับหน่วยงานอื่นอย่างไร และในบั้นปลายของ กมธ.ชุดนี้ จะไปให้ถึงการแก้ไขกฎหมาย และบทบาทของ สตง. เพื่อให้แน่ใจว่าท่านสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ ประชาชนไว้ใจท่านได้ ท่านก็ต้องถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]

นายกฯ ถกปม ฮ.ตำรวจตก สั่งเร่งสำรวจอากาศยานทุกลำ

ทำเนียบ 28 พ.ค.- นายกฯ หารือ ผบ.ตร. รายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ฮ.ตำรวจตก พบอากาศยานของกองบินตำรวจอายุใช้งานยาวนาน-ขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ สั่งเร่งสำรวจลำดับความสำคัญจัดงบฯ ซื้อใหม่ ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของ ตร. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่า จากกรณีเครื่องบินของกองบินตำรวจประสบอุบัติเหตุตกในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ดิฉันได้เรียนเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบินตำรวจ มารายงานข้อมูลถึงสาเหตุของเหตุการณ์ รวมถึงแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต จากรายงานพบว่า อากาศยานของกองบินตำรวจ ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ จำนวนมากมีอายุการใช้งานยาวนาน และขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ จนอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจ ดิฉันได้สั่งการให้กองบินตำรวจเร่งสำรวจสถานะของอากาศยานทุกลำ ทั้งที่ยังใช้งานอยู่ อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง หรือพิจารณาปลดประจำการ เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ รวมถึงการจัดหาเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ใหม่ให้เหมาะสมกับภารกิจในอนาคต เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ชีวิตความปลอดภัย และสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน .-316 -สำนักข่าวไทย

เสียงปืนสนั่นชายแดนพบพระ ผู้ปกครองไม่กล้าพาลูกไป รร.

ตาก 28 พ.ค. – เช้านี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตึงเครียดหนัก ทหารกะเหรี่ยงและทหารเมียนมายิงปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ปกครองไม่กล้าพาบุตรหลานมาโรงเรียนแนวชายแดน และบางส่วนพึ่งหลุมหลบภัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ( KNLA ) พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชน (PDF) จำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมาได้บุกโจมตีทหารเมียนมา จากกองบังคับการควบคุมยุทธการที่ 13 จำนวนกว่า 70 คน ที่กำลังเดินทัพไปเสริมกำลังที่ฐานบ้านทิบาโบ แต่ระหว่างทางถูกทหารกะเหรี่ยงเข้าสกัดจนเกิดการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่บริเวณสนามกีฬาบ้านส่งซี่เมี่ยน อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1กิโลเมตร รวมถึงทหารเมียนมาจากฐานทิบาโบ ซึ่งเป็นฐานขนาดใหญ่ ก็ได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าช่วยเหลือทหารเมียนมาด้วย เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้าน หมู่บ้านมอเกอไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านฝั่งไทยที่ติดกับพื้นที่ยิงปะทะ เตรียมความพร้อมไปอยู่ในหลุมหลบภัย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน มอเกอไทย เผยว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติแต่มีเด็กมาเรียนน้อย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงเรื่องความปลอดภัยจึงให้บุตรหลานหยุดเรียน โดยมีทหารชุดเฉพาะกิจราชมนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมอเกอ […]

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย