“สว.พันธุ์ใหม่” ค้านของบปรับปรุงรัฐสภา ซัด 4 ปีชำรุดทรุดโทรม

รัฐสภา 8 พ.ค.- “สว.พันธุ์ใหม่” ค้านของบปรับปรุงรัฐสภา ซัดใช้งานมา 4 ปีชำรุด ทรุดโทรม น้ำรั่ว ฝ้าถล่ม ราขึ้นเสา แต่ผู้รับเหมาเมิน ทั้งที่มีประกัน แนะทำป้ายบอกทางเหตุเป็นสภาพิศวงต้องเชื่อมจิตไปห้องต่างๆ ตั้งคำถามงบทั้งหมดเพื่อประชาชนหรือเพื่อความสะดวกสบายของสว.สูงส่ง


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว.นำกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่แถลงข่าวถึงการของบประมาณปรับปรุงอาคารรัฐสภา ว่า เป็นงบประมาณที่ฟุ้งเฟ้อไม่สมเหตุสมผลและส่อไปถึงความไม่โปร่งใส ซึ่งงบที่มีการขอเข้ามานี้ไม่ได้สมเหตุสมผลและไม่ได้ยึดโยงกับหลักการที่ควรจะเป็นการจัดสร้างรัฐสภาแห่งนี้บนพื้นที่ 120 ไร่ 420,000 ตารางเมตร ใช้งานมา 4 ปีชำรุดทรุดโทรม เวลาประชุมน้ำรั่ว มีทั้งน้ำฝน น้ำแอร์และฝ้าเพดานถล่ม เห็นอยู่เป็นประจำบัดนี้เห็นความรั่วชำรุดทั้งหลายแต่ไม่มีงบในการที่จะมาจัดการตรงนี้

“ที่สำคัญการหาห้องต่างๆไม่เจอ รัฐสภาแห่งนี้เป็นรัฐสภาพิศวงป้ายบอกทางไม่มีต้องใช้เชื่อมจิตไปยังห้องต่างๆเองไม่สามารถที่จะหาห้องต่างๆได้จากป้ายและไม่มีแนวโน้มที่จะของบมาทำป้ายแต่งบที่ขอมานั้นเป็นงบที่สิ้นเปลืองโดยสิ้นเชิง งบที่ขอปีนี้ 15 โครงการ ได้รับการจัดสรรเข้าไปอยู่ในงบที่จะพิจารณาเร็วๆนี้ 10 โครงการ รวมทั้งสิ้น 956 ล้านบาท อีก 5 โครงการนั้นเป็นงบหมกเม็ดแม้ไม่ได้อนุมัติแต่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว”นางสาวนันทนา กล่าว


นางสาวนันทนา ยังยกตัวอย่าง งบประมาณ 10 โครงการ 956 ล้านเป็นงบปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ปัจจุบันนี้มีพื้นที่อยู่แล้วแต่ของบปรับปรุงทั้งที่ไม่เคยใช้เลย และเขาเรียกกันว่า”ป่าช้า” เพราะไม่มีอะไรและไม่มีสิ่งต่างๆที่จะแสดงให้เห็นว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนการของบพัฒนาภาพยนตร์ระบบ 4D แบบ iMac ดิน น้ำ ลม ไฟก็มา 180 ล้านบาทเอาไปทำไม เราไม่ต้องการ อีกทั้งการของบ117 ล้านบาทปรับปรุงไฟห้องสัมมนา ทำไมไฟปัจุบันไม่เพียงพอ ขณะที่ ของบ 123 ล้านบาท ติดแอร์ให้กับศาลาแก้ว ที่ปัจจุบันเหมาะกับการตากปลาหมอคางดำ เพราะหากติดแอร์ต้องสู้กับแสงอาทิตย์ ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น

นางสาวนันทนา ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันนี้น้ำยังรั่ว ฝ้ายังถล่ม รายังขึ้นตามเสาต่างๆผู้รับเหมาเดิมไม่รับผิดชอบหรืออย่างไรปกติการสร้างอาคารต่างๆต้องใช้ เวลารับประกันน้อยที่สุด 10 ปี ขณะที่อาคารนี้ 22,000 ล้านกลับจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ แล้วทำไมถึงไม่เรียกเขามาซ่อมมาปรับปรุง และอีก 5 โครงการที่หมกเม็ดเอาไว้คือโครงการสร้างอาคารจอดรถเพิ่มเติมปัจจุบันนี้อาคารจอดรถที่อยู่ชั้น B1 และ B2 จอดรถได้ประมาณ 1,900 คันทั้งๆที่ระเบียบข้อบังคับของกทมระบุว่าอาคารที่จะสร้างขึ้นหลังปี 2540 จะต้องมีพื้นที่ 120 ตารางเมตรต่อรถ 1 คัน เพราะฉะนั้นสภา 420,000 ตารางเมตรจะต้องมีที่จอดรถ 3,500 คันแต่เรามีแค่ 1,900 คันผิดระเบียบผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นแล้วทำไมปล่อยให้สร้าง พอถึงวันนี้มาขอเสนองบประมาณและเป็นงบผูกพันถึง 4,600 ล้าน ตกที่จอดรถช่องละ 1 ล้านบาท แพงกว่าตึกสตง. นอกจากนี้ยังของบออกแบบกิจกรรมด้านหลังบัลลังก์ประธาน ตนก็ไม่แน่ใจว่าเราจะทำกิจกรรมฝาผนังงดงามในขณะที่เราประชุมเพื่อที่จะพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชน อีก 133 ล้าน และยังมีงบซ่อมแซมปรับปรุงเสาไม้สักซึ่งไม่รู้ว่าสักจริงหรือสักไม่จริงแต่ราขึ้นเต็มไปหมด

“นี่คือตัวอย่างที่นำเสนอว่าผิดพลาดมาตั้งแต่สร้างอาคารนี้ จาก 12,000 ล้านเป็น 22,000 ล้านที่รับมอบไปเมื่อกรกฎาคมปีที่แล้วรับมาไม่ถึง 1 ปีชำรุดทรุดโทรมช้า รั่วมั่ว พัง นี่คือสิ่งที่เราออกมาปฏิเสธว่าเราไม่สามารถที่จะให้งบประมาณที่ฟุ้งเฟ้อเหล่านี้ผ่านจะพาไปได้” นางสาวนันทนากล่าว


นางสาวนันทนา ยังกล่าวด้วยว่า สว.ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชนรวมทั้งสส. ด้วย ฉะนั้นการใช้งบประมาณต้องเห็นหัวประชาชนไม่ได้เห็นความสำคัญจำเป็นกับงบทั้ง 10 รายการรวมทั้งอีก 5 รายการที่ซ่อนเอาไว้ในการที่จะมาละเลงงบจากภาษีของประชาชน ขณะที่ประชาชนยังทุกยากเศรษฐกิจไม่ดีรายได้ไม่พอเรายังพรานงบของประชาชนขนาดนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงและเราก็จะใช้ทุกวิธีทางในการที่จะสกัดกั้นไม่ให้งบตัวนี้มาเป็นภาระภาษีของประชาชน และขอคนรับผิดชอบการสร้างอาคารที่จอดรถที่ผิดข้อบัญญัติด้วย

นายสุนทร พฤกษพิทักษ์ สว. กล่าวว่า อาคารรัฐสภาก่อสร้างแบบประหยัดพลังงานดีเด่นสระมรกตทำให้เกิดอากาศถ่ายเทหมุนเวียนรอบๆถ้าถมสระ150ล้านบาทเกรงจะเกิดปัญหาอาคารร้อนหรือจะติดแอร์ และปัจจุบันค่าแอร์เดือนละ13 ล้านบาท สถาปนิก หลายคนและตนขอคัดค้านอย่างรุนแรงไม่เห็นความจำเป็น ในการถมสระมรกตหรือสร้างอาคารจอดรถใหม่ เพราะอาคารรัฐสภาใช้ภาษีของประชาชนอยากให้คำนึงถึงประชาชน เห็นหัวประชาชนไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ ริมแม่น้ำเจ้าลานจอดรถจอดใต้ดินไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี น่าจะเป็นทางเลือกอื่นเช่นมีจุดจอดแล้วมีรถเวียนมารับ หรือขอใช้พื้นที่ทหารรอบอาคารรัฐสภา ทำสะพานเชื่อมเข้ามาน่าจะเป็นทางเลือก

นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กล่าวว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้รัฐบาลจะใช้งบประมาณอะไรจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบ เช่นตึกสตง.ที่ถล่ม ถูกจับจ้องเรื่อง การใช้งบ จึงขอให้คำนึงถึงเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน พร้อมเห็นว่ารัฐสภาควรเร่งแก้ปัญหาห้องน้ำที่ชำรุด หลายจุดหลายเดือน เพราะตนเคยปวดหนักแล้วใช้ไม่ได้ และควรใช้งบในการสร้างป้ายบอกทางของอาคารรัฐสภาที่เป็นอาคารพิศวง ในชั้นเดียวกันมีห้องประชุมชื่อเหมือนกัน 4 ห้อง นอกจากนี้เป็นเรื่องโรงอาหาร ที่มีที่นั่งไม่ถึง 100 ที่นั่ง ถ้าใช้งบประมาณในการขยายโรงอาหารทุกคนจะได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันไม่มีเครื่องกดน้ำ ภายในอาคารรัฐสภา และแผนการติดแอร์ศาลาแก้วใช้ไม่กี่ครั้ง ยังมีห้อง ใกล้ๆกัน ที่มีประชาชนมายื่นเรื่องร้องเรียน เป็นประจำ แต่ไม่มีแอร์ จึงเป็นคำถามความจำเป็นเร่งด่วนกับงบที่เสนอกับงบที่อนุมัติไปแล้วอันไหนเร่งด่วนกว่ากัน นอกจากนี้ยังเห็นว่างบประมาณปรับปรุงพิพิธภัณฑ์และโรงภาพยนตร์ หรือห้องสัมมนา เท่าที่จำได้คือ B2 เคยใช้แค่ครั้งเดียวตลอด 10 เดือนจึงเห็นว่าจำเป็นต้องใช้งบเป็นร้อยล้านไปซ่อมแซมจริงหรือและตั้งคำถามว่างบทั้งหมดเพื่อประชาชนหรือเพื่อใคร หรือเพื่อความสะดวกสบายของสมาชิกวุฒิสภาที่สูงส่งตามที่บางคนบอก แผนที่นำงบตรงนี้ไปพัฒนาช่วยประชาชน เช่นสถานีขนส่ง

นายพรชัย ยังกล่าวถึงงบเรียนภาษาจีนของสว.ว่าเป็นงบปี69 ภายใต้ความร่วมมือของสถานทูตจีนและมหาวิทยาลัยหัวเฉียว แต่ทราบว่ามีการไปดูงานที่ต่างประเทศแต่ผู้จะไปต้องจ่ายเอง ซึ่งไม่ได้เบียดเบียนภาษีประชาชน แต่ไม่แน่ใจว่า 2.3 ล้านบาทตั้งขึ้นมา เป็นส่วนใด หรือใช้ในครั้งหน้าในการเดินทาง แต่ล่าสุดมีการถอนแล้วไม่มีการขอ คงต้องขอให้ประชาชนเอาทัวร์มาลงเยอะๆงบที่ไม่สมเหตุสมผลจะได้หายไป .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]