“สว.พันธุ์ใหม่” ค้านของบปรับปรุงรัฐสภา ซัด 4 ปีชำรุดทรุดโทรม

รัฐสภา 8 พ.ค.- “สว.พันธุ์ใหม่” ค้านของบปรับปรุงรัฐสภา ซัดใช้งานมา 4 ปีชำรุด ทรุดโทรม น้ำรั่ว ฝ้าถล่ม ราขึ้นเสา แต่ผู้รับเหมาเมิน ทั้งที่มีประกัน แนะทำป้ายบอกทางเหตุเป็นสภาพิศวงต้องเชื่อมจิตไปห้องต่างๆ ตั้งคำถามงบทั้งหมดเพื่อประชาชนหรือเพื่อความสะดวกสบายของสว.สูงส่ง


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว.นำกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่แถลงข่าวถึงการของบประมาณปรับปรุงอาคารรัฐสภา ว่า เป็นงบประมาณที่ฟุ้งเฟ้อไม่สมเหตุสมผลและส่อไปถึงความไม่โปร่งใส ซึ่งงบที่มีการขอเข้ามานี้ไม่ได้สมเหตุสมผลและไม่ได้ยึดโยงกับหลักการที่ควรจะเป็นการจัดสร้างรัฐสภาแห่งนี้บนพื้นที่ 120 ไร่ 420,000 ตารางเมตร ใช้งานมา 4 ปีชำรุดทรุดโทรม เวลาประชุมน้ำรั่ว มีทั้งน้ำฝน น้ำแอร์และฝ้าเพดานถล่ม เห็นอยู่เป็นประจำบัดนี้เห็นความรั่วชำรุดทั้งหลายแต่ไม่มีงบในการที่จะมาจัดการตรงนี้

“ที่สำคัญการหาห้องต่างๆไม่เจอ รัฐสภาแห่งนี้เป็นรัฐสภาพิศวงป้ายบอกทางไม่มีต้องใช้เชื่อมจิตไปยังห้องต่างๆเองไม่สามารถที่จะหาห้องต่างๆได้จากป้ายและไม่มีแนวโน้มที่จะของบมาทำป้ายแต่งบที่ขอมานั้นเป็นงบที่สิ้นเปลืองโดยสิ้นเชิง งบที่ขอปีนี้ 15 โครงการ ได้รับการจัดสรรเข้าไปอยู่ในงบที่จะพิจารณาเร็วๆนี้ 10 โครงการ รวมทั้งสิ้น 956 ล้านบาท อีก 5 โครงการนั้นเป็นงบหมกเม็ดแม้ไม่ได้อนุมัติแต่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว”นางสาวนันทนา กล่าว


นางสาวนันทนา ยังยกตัวอย่าง งบประมาณ 10 โครงการ 956 ล้านเป็นงบปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ปัจจุบันนี้มีพื้นที่อยู่แล้วแต่ของบปรับปรุงทั้งที่ไม่เคยใช้เลย และเขาเรียกกันว่า”ป่าช้า” เพราะไม่มีอะไรและไม่มีสิ่งต่างๆที่จะแสดงให้เห็นว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนการของบพัฒนาภาพยนตร์ระบบ 4D แบบ iMac ดิน น้ำ ลม ไฟก็มา 180 ล้านบาทเอาไปทำไม เราไม่ต้องการ อีกทั้งการของบ117 ล้านบาทปรับปรุงไฟห้องสัมมนา ทำไมไฟปัจุบันไม่เพียงพอ ขณะที่ ของบ 123 ล้านบาท ติดแอร์ให้กับศาลาแก้ว ที่ปัจจุบันเหมาะกับการตากปลาหมอคางดำ เพราะหากติดแอร์ต้องสู้กับแสงอาทิตย์ ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น

นางสาวนันทนา ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันนี้น้ำยังรั่ว ฝ้ายังถล่ม รายังขึ้นตามเสาต่างๆผู้รับเหมาเดิมไม่รับผิดชอบหรืออย่างไรปกติการสร้างอาคารต่างๆต้องใช้ เวลารับประกันน้อยที่สุด 10 ปี ขณะที่อาคารนี้ 22,000 ล้านกลับจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ แล้วทำไมถึงไม่เรียกเขามาซ่อมมาปรับปรุง และอีก 5 โครงการที่หมกเม็ดเอาไว้คือโครงการสร้างอาคารจอดรถเพิ่มเติมปัจจุบันนี้อาคารจอดรถที่อยู่ชั้น B1 และ B2 จอดรถได้ประมาณ 1,900 คันทั้งๆที่ระเบียบข้อบังคับของกทมระบุว่าอาคารที่จะสร้างขึ้นหลังปี 2540 จะต้องมีพื้นที่ 120 ตารางเมตรต่อรถ 1 คัน เพราะฉะนั้นสภา 420,000 ตารางเมตรจะต้องมีที่จอดรถ 3,500 คันแต่เรามีแค่ 1,900 คันผิดระเบียบผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นแล้วทำไมปล่อยให้สร้าง พอถึงวันนี้มาขอเสนองบประมาณและเป็นงบผูกพันถึง 4,600 ล้าน ตกที่จอดรถช่องละ 1 ล้านบาท แพงกว่าตึกสตง. นอกจากนี้ยังของบออกแบบกิจกรรมด้านหลังบัลลังก์ประธาน ตนก็ไม่แน่ใจว่าเราจะทำกิจกรรมฝาผนังงดงามในขณะที่เราประชุมเพื่อที่จะพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชน อีก 133 ล้าน และยังมีงบซ่อมแซมปรับปรุงเสาไม้สักซึ่งไม่รู้ว่าสักจริงหรือสักไม่จริงแต่ราขึ้นเต็มไปหมด

“นี่คือตัวอย่างที่นำเสนอว่าผิดพลาดมาตั้งแต่สร้างอาคารนี้ จาก 12,000 ล้านเป็น 22,000 ล้านที่รับมอบไปเมื่อกรกฎาคมปีที่แล้วรับมาไม่ถึง 1 ปีชำรุดทรุดโทรมช้า รั่วมั่ว พัง นี่คือสิ่งที่เราออกมาปฏิเสธว่าเราไม่สามารถที่จะให้งบประมาณที่ฟุ้งเฟ้อเหล่านี้ผ่านจะพาไปได้” นางสาวนันทนากล่าว


นางสาวนันทนา ยังกล่าวด้วยว่า สว.ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชนรวมทั้งสส. ด้วย ฉะนั้นการใช้งบประมาณต้องเห็นหัวประชาชนไม่ได้เห็นความสำคัญจำเป็นกับงบทั้ง 10 รายการรวมทั้งอีก 5 รายการที่ซ่อนเอาไว้ในการที่จะมาละเลงงบจากภาษีของประชาชน ขณะที่ประชาชนยังทุกยากเศรษฐกิจไม่ดีรายได้ไม่พอเรายังพรานงบของประชาชนขนาดนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงและเราก็จะใช้ทุกวิธีทางในการที่จะสกัดกั้นไม่ให้งบตัวนี้มาเป็นภาระภาษีของประชาชน และขอคนรับผิดชอบการสร้างอาคารที่จอดรถที่ผิดข้อบัญญัติด้วย

นายสุนทร พฤกษพิทักษ์ สว. กล่าวว่า อาคารรัฐสภาก่อสร้างแบบประหยัดพลังงานดีเด่นสระมรกตทำให้เกิดอากาศถ่ายเทหมุนเวียนรอบๆถ้าถมสระ150ล้านบาทเกรงจะเกิดปัญหาอาคารร้อนหรือจะติดแอร์ และปัจจุบันค่าแอร์เดือนละ13 ล้านบาท สถาปนิก หลายคนและตนขอคัดค้านอย่างรุนแรงไม่เห็นความจำเป็น ในการถมสระมรกตหรือสร้างอาคารจอดรถใหม่ เพราะอาคารรัฐสภาใช้ภาษีของประชาชนอยากให้คำนึงถึงประชาชน เห็นหัวประชาชนไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ ริมแม่น้ำเจ้าลานจอดรถจอดใต้ดินไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี น่าจะเป็นทางเลือกอื่นเช่นมีจุดจอดแล้วมีรถเวียนมารับ หรือขอใช้พื้นที่ทหารรอบอาคารรัฐสภา ทำสะพานเชื่อมเข้ามาน่าจะเป็นทางเลือก

นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กล่าวว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้รัฐบาลจะใช้งบประมาณอะไรจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบ เช่นตึกสตง.ที่ถล่ม ถูกจับจ้องเรื่อง การใช้งบ จึงขอให้คำนึงถึงเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน พร้อมเห็นว่ารัฐสภาควรเร่งแก้ปัญหาห้องน้ำที่ชำรุด หลายจุดหลายเดือน เพราะตนเคยปวดหนักแล้วใช้ไม่ได้ และควรใช้งบในการสร้างป้ายบอกทางของอาคารรัฐสภาที่เป็นอาคารพิศวง ในชั้นเดียวกันมีห้องประชุมชื่อเหมือนกัน 4 ห้อง นอกจากนี้เป็นเรื่องโรงอาหาร ที่มีที่นั่งไม่ถึง 100 ที่นั่ง ถ้าใช้งบประมาณในการขยายโรงอาหารทุกคนจะได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันไม่มีเครื่องกดน้ำ ภายในอาคารรัฐสภา และแผนการติดแอร์ศาลาแก้วใช้ไม่กี่ครั้ง ยังมีห้อง ใกล้ๆกัน ที่มีประชาชนมายื่นเรื่องร้องเรียน เป็นประจำ แต่ไม่มีแอร์ จึงเป็นคำถามความจำเป็นเร่งด่วนกับงบที่เสนอกับงบที่อนุมัติไปแล้วอันไหนเร่งด่วนกว่ากัน นอกจากนี้ยังเห็นว่างบประมาณปรับปรุงพิพิธภัณฑ์และโรงภาพยนตร์ หรือห้องสัมมนา เท่าที่จำได้คือ B2 เคยใช้แค่ครั้งเดียวตลอด 10 เดือนจึงเห็นว่าจำเป็นต้องใช้งบเป็นร้อยล้านไปซ่อมแซมจริงหรือและตั้งคำถามว่างบทั้งหมดเพื่อประชาชนหรือเพื่อใคร หรือเพื่อความสะดวกสบายของสมาชิกวุฒิสภาที่สูงส่งตามที่บางคนบอก แผนที่นำงบตรงนี้ไปพัฒนาช่วยประชาชน เช่นสถานีขนส่ง

นายพรชัย ยังกล่าวถึงงบเรียนภาษาจีนของสว.ว่าเป็นงบปี69 ภายใต้ความร่วมมือของสถานทูตจีนและมหาวิทยาลัยหัวเฉียว แต่ทราบว่ามีการไปดูงานที่ต่างประเทศแต่ผู้จะไปต้องจ่ายเอง ซึ่งไม่ได้เบียดเบียนภาษีประชาชน แต่ไม่แน่ใจว่า 2.3 ล้านบาทตั้งขึ้นมา เป็นส่วนใด หรือใช้ในครั้งหน้าในการเดินทาง แต่ล่าสุดมีการถอนแล้วไม่มีการขอ คงต้องขอให้ประชาชนเอาทัวร์มาลงเยอะๆงบที่ไม่สมเหตุสมผลจะได้หายไป .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]