“สว.พันธุ์ใหม่” ค้านของบปรับปรุงรัฐสภา ซัด 4 ปีชำรุดทรุดโทรม

รัฐสภา 8 พ.ค.- “สว.พันธุ์ใหม่” ค้านของบปรับปรุงรัฐสภา ซัดใช้งานมา 4 ปีชำรุด ทรุดโทรม น้ำรั่ว ฝ้าถล่ม ราขึ้นเสา แต่ผู้รับเหมาเมิน ทั้งที่มีประกัน แนะทำป้ายบอกทางเหตุเป็นสภาพิศวงต้องเชื่อมจิตไปห้องต่างๆ ตั้งคำถามงบทั้งหมดเพื่อประชาชนหรือเพื่อความสะดวกสบายของสว.สูงส่ง


นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว.นำกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่แถลงข่าวถึงการของบประมาณปรับปรุงอาคารรัฐสภา ว่า เป็นงบประมาณที่ฟุ้งเฟ้อไม่สมเหตุสมผลและส่อไปถึงความไม่โปร่งใส ซึ่งงบที่มีการขอเข้ามานี้ไม่ได้สมเหตุสมผลและไม่ได้ยึดโยงกับหลักการที่ควรจะเป็นการจัดสร้างรัฐสภาแห่งนี้บนพื้นที่ 120 ไร่ 420,000 ตารางเมตร ใช้งานมา 4 ปีชำรุดทรุดโทรม เวลาประชุมน้ำรั่ว มีทั้งน้ำฝน น้ำแอร์และฝ้าเพดานถล่ม เห็นอยู่เป็นประจำบัดนี้เห็นความรั่วชำรุดทั้งหลายแต่ไม่มีงบในการที่จะมาจัดการตรงนี้

“ที่สำคัญการหาห้องต่างๆไม่เจอ รัฐสภาแห่งนี้เป็นรัฐสภาพิศวงป้ายบอกทางไม่มีต้องใช้เชื่อมจิตไปยังห้องต่างๆเองไม่สามารถที่จะหาห้องต่างๆได้จากป้ายและไม่มีแนวโน้มที่จะของบมาทำป้ายแต่งบที่ขอมานั้นเป็นงบที่สิ้นเปลืองโดยสิ้นเชิง งบที่ขอปีนี้ 15 โครงการ ได้รับการจัดสรรเข้าไปอยู่ในงบที่จะพิจารณาเร็วๆนี้ 10 โครงการ รวมทั้งสิ้น 956 ล้านบาท อีก 5 โครงการนั้นเป็นงบหมกเม็ดแม้ไม่ได้อนุมัติแต่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว”นางสาวนันทนา กล่าว


นางสาวนันทนา ยังยกตัวอย่าง งบประมาณ 10 โครงการ 956 ล้านเป็นงบปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ปัจจุบันนี้มีพื้นที่อยู่แล้วแต่ของบปรับปรุงทั้งที่ไม่เคยใช้เลย และเขาเรียกกันว่า”ป่าช้า” เพราะไม่มีอะไรและไม่มีสิ่งต่างๆที่จะแสดงให้เห็นว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนการของบพัฒนาภาพยนตร์ระบบ 4D แบบ iMac ดิน น้ำ ลม ไฟก็มา 180 ล้านบาทเอาไปทำไม เราไม่ต้องการ อีกทั้งการของบ117 ล้านบาทปรับปรุงไฟห้องสัมมนา ทำไมไฟปัจุบันไม่เพียงพอ ขณะที่ ของบ 123 ล้านบาท ติดแอร์ให้กับศาลาแก้ว ที่ปัจจุบันเหมาะกับการตากปลาหมอคางดำ เพราะหากติดแอร์ต้องสู้กับแสงอาทิตย์ ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น

นางสาวนันทนา ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันนี้น้ำยังรั่ว ฝ้ายังถล่ม รายังขึ้นตามเสาต่างๆผู้รับเหมาเดิมไม่รับผิดชอบหรืออย่างไรปกติการสร้างอาคารต่างๆต้องใช้ เวลารับประกันน้อยที่สุด 10 ปี ขณะที่อาคารนี้ 22,000 ล้านกลับจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ แล้วทำไมถึงไม่เรียกเขามาซ่อมมาปรับปรุง และอีก 5 โครงการที่หมกเม็ดเอาไว้คือโครงการสร้างอาคารจอดรถเพิ่มเติมปัจจุบันนี้อาคารจอดรถที่อยู่ชั้น B1 และ B2 จอดรถได้ประมาณ 1,900 คันทั้งๆที่ระเบียบข้อบังคับของกทมระบุว่าอาคารที่จะสร้างขึ้นหลังปี 2540 จะต้องมีพื้นที่ 120 ตารางเมตรต่อรถ 1 คัน เพราะฉะนั้นสภา 420,000 ตารางเมตรจะต้องมีที่จอดรถ 3,500 คันแต่เรามีแค่ 1,900 คันผิดระเบียบผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นแล้วทำไมปล่อยให้สร้าง พอถึงวันนี้มาขอเสนองบประมาณและเป็นงบผูกพันถึง 4,600 ล้าน ตกที่จอดรถช่องละ 1 ล้านบาท แพงกว่าตึกสตง. นอกจากนี้ยังของบออกแบบกิจกรรมด้านหลังบัลลังก์ประธาน ตนก็ไม่แน่ใจว่าเราจะทำกิจกรรมฝาผนังงดงามในขณะที่เราประชุมเพื่อที่จะพิจารณาความเดือดร้อนของประชาชน อีก 133 ล้าน และยังมีงบซ่อมแซมปรับปรุงเสาไม้สักซึ่งไม่รู้ว่าสักจริงหรือสักไม่จริงแต่ราขึ้นเต็มไปหมด

“นี่คือตัวอย่างที่นำเสนอว่าผิดพลาดมาตั้งแต่สร้างอาคารนี้ จาก 12,000 ล้านเป็น 22,000 ล้านที่รับมอบไปเมื่อกรกฎาคมปีที่แล้วรับมาไม่ถึง 1 ปีชำรุดทรุดโทรมช้า รั่วมั่ว พัง นี่คือสิ่งที่เราออกมาปฏิเสธว่าเราไม่สามารถที่จะให้งบประมาณที่ฟุ้งเฟ้อเหล่านี้ผ่านจะพาไปได้” นางสาวนันทนากล่าว


นางสาวนันทนา ยังกล่าวด้วยว่า สว.ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชนรวมทั้งสส. ด้วย ฉะนั้นการใช้งบประมาณต้องเห็นหัวประชาชนไม่ได้เห็นความสำคัญจำเป็นกับงบทั้ง 10 รายการรวมทั้งอีก 5 รายการที่ซ่อนเอาไว้ในการที่จะมาละเลงงบจากภาษีของประชาชน ขณะที่ประชาชนยังทุกยากเศรษฐกิจไม่ดีรายได้ไม่พอเรายังพรานงบของประชาชนขนาดนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงและเราก็จะใช้ทุกวิธีทางในการที่จะสกัดกั้นไม่ให้งบตัวนี้มาเป็นภาระภาษีของประชาชน และขอคนรับผิดชอบการสร้างอาคารที่จอดรถที่ผิดข้อบัญญัติด้วย

นายสุนทร พฤกษพิทักษ์ สว. กล่าวว่า อาคารรัฐสภาก่อสร้างแบบประหยัดพลังงานดีเด่นสระมรกตทำให้เกิดอากาศถ่ายเทหมุนเวียนรอบๆถ้าถมสระ150ล้านบาทเกรงจะเกิดปัญหาอาคารร้อนหรือจะติดแอร์ และปัจจุบันค่าแอร์เดือนละ13 ล้านบาท สถาปนิก หลายคนและตนขอคัดค้านอย่างรุนแรงไม่เห็นความจำเป็น ในการถมสระมรกตหรือสร้างอาคารจอดรถใหม่ เพราะอาคารรัฐสภาใช้ภาษีของประชาชนอยากให้คำนึงถึงประชาชน เห็นหัวประชาชนไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ ริมแม่น้ำเจ้าลานจอดรถจอดใต้ดินไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดี น่าจะเป็นทางเลือกอื่นเช่นมีจุดจอดแล้วมีรถเวียนมารับ หรือขอใช้พื้นที่ทหารรอบอาคารรัฐสภา ทำสะพานเชื่อมเข้ามาน่าจะเป็นทางเลือก

นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กล่าวว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้รัฐบาลจะใช้งบประมาณอะไรจำเป็นต้องคิดอย่างรอบคอบ เช่นตึกสตง.ที่ถล่ม ถูกจับจ้องเรื่อง การใช้งบ จึงขอให้คำนึงถึงเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน พร้อมเห็นว่ารัฐสภาควรเร่งแก้ปัญหาห้องน้ำที่ชำรุด หลายจุดหลายเดือน เพราะตนเคยปวดหนักแล้วใช้ไม่ได้ และควรใช้งบในการสร้างป้ายบอกทางของอาคารรัฐสภาที่เป็นอาคารพิศวง ในชั้นเดียวกันมีห้องประชุมชื่อเหมือนกัน 4 ห้อง นอกจากนี้เป็นเรื่องโรงอาหาร ที่มีที่นั่งไม่ถึง 100 ที่นั่ง ถ้าใช้งบประมาณในการขยายโรงอาหารทุกคนจะได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันไม่มีเครื่องกดน้ำ ภายในอาคารรัฐสภา และแผนการติดแอร์ศาลาแก้วใช้ไม่กี่ครั้ง ยังมีห้อง ใกล้ๆกัน ที่มีประชาชนมายื่นเรื่องร้องเรียน เป็นประจำ แต่ไม่มีแอร์ จึงเป็นคำถามความจำเป็นเร่งด่วนกับงบที่เสนอกับงบที่อนุมัติไปแล้วอันไหนเร่งด่วนกว่ากัน นอกจากนี้ยังเห็นว่างบประมาณปรับปรุงพิพิธภัณฑ์และโรงภาพยนตร์ หรือห้องสัมมนา เท่าที่จำได้คือ B2 เคยใช้แค่ครั้งเดียวตลอด 10 เดือนจึงเห็นว่าจำเป็นต้องใช้งบเป็นร้อยล้านไปซ่อมแซมจริงหรือและตั้งคำถามว่างบทั้งหมดเพื่อประชาชนหรือเพื่อใคร หรือเพื่อความสะดวกสบายของสมาชิกวุฒิสภาที่สูงส่งตามที่บางคนบอก แผนที่นำงบตรงนี้ไปพัฒนาช่วยประชาชน เช่นสถานีขนส่ง

นายพรชัย ยังกล่าวถึงงบเรียนภาษาจีนของสว.ว่าเป็นงบปี69 ภายใต้ความร่วมมือของสถานทูตจีนและมหาวิทยาลัยหัวเฉียว แต่ทราบว่ามีการไปดูงานที่ต่างประเทศแต่ผู้จะไปต้องจ่ายเอง ซึ่งไม่ได้เบียดเบียนภาษีประชาชน แต่ไม่แน่ใจว่า 2.3 ล้านบาทตั้งขึ้นมา เป็นส่วนใด หรือใช้ในครั้งหน้าในการเดินทาง แต่ล่าสุดมีการถอนแล้วไม่มีการขอ คงต้องขอให้ประชาชนเอาทัวร์มาลงเยอะๆงบที่ไม่สมเหตุสมผลจะได้หายไป .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]