8 พ.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทลายเครือข่ายโกงภาษี กว่า 300 ล้าน รวบกรรมการบริษัทขยะรีไซเคิล หลังออกใบกำกับภาษีปลอมกว่าพันฉบับ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมนางสาวสาริสา อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.351/2567 ลงวันที่ 4 กันยายน 2567 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิจะออกเอกสารดังกล่าว” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพัก ในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
สืบเนื่องจากเมื่อเมษายน 2560 กองตรวจสอบภาษีกลาง พร้อมด้วยกองสืบสวนและคดีกรมสรรพากร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ทำการตรวจค้นบริษัทที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมรีไซเคิลแห่งหนึ่ง ที่มีที่ตั้งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งได้รับข้อมูลร้องเรียน ว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมโกงภาษีโดยจัดหาใบกำกับภาษีเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานภาษีซื้อ ภาษีขายของบริษัท พบว่า มีชื่อบริษัท เค จำกัด (ชื่อสมมุติ) เป็นผู้ออกใบกำกับภาษี เป็นจำนวน 1,012 ฉบับ โดยไม่มีการซื้อขายกันจริง ซึ่งเจ้าพนักงานประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม สำหรับเดือนภาษี กันยายน พ.ศ.2557 ถึงเดือนภาษีพฤษภาคม พ.ศ.2560 รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 333 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าพนักงานได้ตรวจสอบบริษัทบริษัท เค จำกัด ที่มี นางสาวกัญญาพัชร เป็นกรรมการผู้จัดการ ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญบริษัท จดทะเบียนประกอบกิจการ ประเภท ซื้อขายขยะ รีไซเคิล ซึ่งจดทะเบียนที่ตั้งสำนักงานในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี แต่พบว่าไม่มีการประกอบกิจการจริง ณ สถานประกอบการที่จดทะเบียนแต่อย่างใด เป็นเพียงที่พักอาศัย ไม่มีสถานที่เก็บสินค้า หรือสถานที่จอดรถ ซึ่งไม่สอดคล้องกับธุรกิจ ประเภท รีไซเคิล เจ้าพนักงานกรมสรรพากร จึงแจ้งชื่อบริษัท เค จำกัด ให้อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประเภท “ไม่ต้องสอบยัน” และไม่เข้ามาพบเจ้าพนักงานสรรพากรเพื่อนำเอกสารหลักฐานการซื้อ การขายของบริษัทมาให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจสอบ
เจ้าพนักงานกองสืบสวนและคดี กรมสรรพากรจึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อดำเนินคดีอาญากับ นางสาวสาริสา กรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัท เค จำกัด ในฐานะส่วนตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานที่ทางสรรพากรเข้ามาร้องทุกข์ และทำการขอหมายจับต่อศาลจังหวัดปทุมธานี และได้ติดตามตัว น.ส.สาริสาฯ เรื่อยมา จนกระทั่งสืบทราบว่า น.ส.สาริสาฯ ได้หลบหนรมาพักอาศัยอยู่บริเวณบ้านพักที่ ตำบลท้ายเกาะ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี จึงได้ทำการจับกุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ. -416-สำนักข่าวไทย
