นิวยอร์ก 8 ก.พ.- ผู้พิพากษาศาลฎีการัฐนิวยอร์กของสหรัฐมีคำสั่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จ่ายค่าเสียหาย 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60.83 ล้านบาท) ให้แก่กลุ่มองค์กรนอกภาครัฐหรือเอ็นจีโอ เพื่อยุติคดีแพ่งกรณีถูกฟ้องเรื่องใช้มูลนิธิส่วนตัวเพื่อประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจ
นางเลติเตีย เจมส์ อัยการรัฐนิวยอร์ก ยื่นฟ้องมูลนิธิทรัมป์เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อนว่า ดำเนินการอย่างผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง จึงได้ฟ้องเรียกเงินชดใช้และเงินค่าปรับหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ทรัมป์ยอมปิดมูลนิธิเมื่อเดือนธันวาคมแต่คดีความก็ยังเดินหน้าต่อไป คำฟ้องระบุว่า ทรัมป์ใช้เงินของมูลนิธิยุติคดีความต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์โรงแรมในเครือ และนำไปใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ซื้อภาพวาดตัวเองไปโชว์ที่สนามกอล์ฟ นอกจากนี้ยังจัดงานที่อ้างว่าเป็นการระดมทุนของมูลนิธิเมื่อต้นปี 2559 แต่ความจริงแล้วเป็นงานระดมทุนหาเสียงเลือกตั้งในปีนั้น นางเจมส์กล่าวหลังทราบผลตัดสินของศาลว่า เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของความพยายามปกป้องทรัพย์สินของมูลนิธิและลงโทษผู้นำเงินของมูลนิธิไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหานางเจมส์ ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตว่า จงใจบิดเบือนการยุติคดีไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง พร้อมกับแย้งว่าเงินยุติคดีไม่ใช่เงินค่าเสียหาย แต่เป็นเงินบริจาคให้มูลนิธิต่าง ๆ เท่านั้น เงินที่มูลนิธิทรัมป์ระดมได้ 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 578 ล้านบาท) ถูกนำไปใช้ในงานการกุศลครบทุกบาททุกสตางค์โดยแทบไม่มีการหักค่าใช้จ่าย คดีนี้เป็นคดีความที่สามแล้วในสัปดาห์นี้ของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากถูกศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเมื่อวันจันทร์ให้เปิดเผยข้อมูลการยื่นเสียภาษีเป็นระยะเวลา 8 ปี ตามที่เขารับปากช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่าจะเปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบทางบัญชี แต่จนถึงขณะนี้ยังคงไม่เปิดเผย และถูกคอลัมนิสต์นิตยสารฉบับหนึ่งยื่นฟ้องในวันเดียวกันข้อหาหมิ่นประมาทตามที่กล่าวหาเธอว่ากุเรื่องถูกเขาข่มขืน.-สำนักข่าวไทย